Meta เปิดตัว Meta Quest+ บริการ subscription ที่ระบุว่าให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเกมที่ดีในแพลตฟอร์ม ราคา 7.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือจ่ายรายปีที่ 59.99 ดอลลาร์ สามารถสมัครใช้งานได้ตั้งแต่วันนี้
รูปแบบบริการนั้น ผู้ใช้งานจะสามารถเข้าถึงเกมใหม่จำนวน 2 เกม ในทุกวันที่ 1 ของเดือน โดยเดือนแรกกรกฎาคมนี้ คือเกม Pistol Whip และ Pixel Ripped 1995 และจะมีเกมใหม่ ๆ เพิ่มมาทุกเดือน ทำให้ยิ่งเป็นสมาชิกนานก็จะมีเกมในแคตาล็อกมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อยกเลิกสมาชิกแล้วกลับมาสมัครใหม่ ก็ยังสามารถเข้าถึงเกมที่เคยเล่นได้ก่อนหน้าทั้งหมดด้วย
มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับไทม์ไลน์ของแพลตฟอร์มไมโครบล็อกกิงที่ Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram เตรียมเปิดตัวออกมาแข่งกับ Twitter โดยระบุว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้
โครงการดังกล่าวมีชื่อในการพัฒนาภายในบริษัทว่า Project 92 คาดว่าชื่อที่จะใช้อย่างเป็นทางการคือ Threads โดยข้อมูลที่เคยรายงานก่อนหน้านี้ แอปจะใช้ระบบล็อกอินและบัญชี รวมถึงการโปรโมตบน Instagram เป็นหลัก เพื่อให้เพิ่มฐานผู้ใช้งานจำนวนมากได้รวดเร็ว โดย Meta คาดว่าจะมีผู้ใช้หลายสิบล้านบัญชี ในช่วงไม่กี่เดือนแรกที่เริ่มให้บริการ
ข้อมูลของ Echobox บริษัทด้านการจัดการโซเชียลมีเดียและคำวิจารณ์ของบริษัทด้านสื่อเผยว่า Facebook ได้ปรับเปลี่ยนการทำงานของอัลกอริธึมโดยไม่ได้แจ้งก่อน ทำให้ยอดผู้เข้าถึงโพสต์ของเพจสำนักข่าวและสื่อลดลงอย่างมาก
Echobox ได้เก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ข่าว 2,000 แห่งทั่วโลกพบว่า ยอดการเข้าถึงโพสต์ลดลงมาเป็นปีแล้ว แต่ลดลงอย่างมากในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยลดลงจากช่วงกลางปีที่แล้วราว 50%
Meta ประกาศเริ่มแบนแสดงผลเนื้อหาข่าวบน Facebook และ Instagram ในแคนาดา หลังจากที่สภา ผ่านร่างกฎหมาย Online News Act (Bill C-18) ที่บังคับให้แพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Google ต้องแบ่งรายได้ให้กับสื่อมวลชน ซึ่ง Meta เคยประกาศ (เชิงขู่) แบนข่าวในแคนาดาไปก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อวันพฤหัสบดี กฎหมาย Bill C-18 ได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา และจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ หลังกฎหมายถูกอนุมัติได้ไม่นาน Meta ก็ประกาศจะยุติการเผยแพร่ข่าวบน Facebook และ Instagram ในแคนาดาก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ โดยขณะนี้ Meta ได้ทดลองแบนการเข้าถึงข่าว ทั้งการดู และ แชร์เนื้อหา กับผู้ใช้บางรายในแคนาดาแล้ว
Elon Musk ระบุว่า พร้อมดวลกับ Mark Zuckerburg ในมวยกรง (Cage Match) หาก Mark ต้องการ ผ่านการตอบกลับทวีตเกี่ยวกับข่าวแอป Threads ของ Meta ที่อาจจะมาเป็นคู่แข่งของ Twitter
ทวีตท้าตีของ Elon ดูไม่จริงจังนัก เพราะเป็นการตอบกลับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่บอกว่า Mark นั้นฝึกศิลปะป้องกันตัว Jujitsu ให้ Elon ระวังตัวไว้ แต่ท่าทีที่ Elon ไม่พอใจ Meta ที่กำลังพัฒนาแอป Threads นั้นดูจริงจัง เขาแสดงความเห็นว่า Mark กำลังพยายามครองโลกโดยไม่เปิดทางเลือกอื่น
ชุมชนผู้ใช้งาน Mastodon เครือข่ายโซเชียลแบบกระจายศูนย์ที่สื่อสารด้วยโปรโตคอล ActivityPub เริ่มเข้าชื่อกันเพื่อปิดกั้น Project92 โครงการโซเชียลแบบข้อความของ Instagram/Meta ที่มีข่าวหลุดออกมาก่อนหน้านี้
ชุมชนเหล่านี้เข้าชื่อกันผ่านหน้าเว็บ Anti-Meta Fedi Pact เป็นสัญญาพันธมิตรของกลุ่มผู้ใช้งาน fediverse (คำเรียกโซเชียลแบบกระจายศูนย์) เพื่อต่อต้านไม่ให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Meta บุกเข้ามา ในหน้าเว็บให้เหตุผลว่า
project92 is a real and serious threat to the health and longevity of fedi and must be fought back against at every possible opportunity
ทีมวิจัย Meta AI รายงานถึงปัญญาประดิษฐ์ Voicebox ที่แปลงข้อความเป็นเสียง (text-to-speech - TTS) ด้วยความแม่นยำสูง มีอัตราความผิดพลาดของคำต่ำ และยังสามารถเลียนแบบเสียงใครก็ได้ โดยต้องการตัวอย่างเสียงเพียงสั้นๆ เท่านั้น
ทีมงานสร้าง Voicebox จากหนังสือเสียงภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมนี, และโปรตุเกส รวมข้อมูล 50,000 ชั่วโมง ความสามารถของ Voicebox สามารถเลียนแบบเสียงจากตัวอย่างเสียงสั้นๆ เท่านั้น, สามารถเลียนแบบสไตล์การพูดข้ามภาษาได้ ด้วยการใส่ข้อความภาษาอื่นๆ เข้าไปแม้ว่าตัวอย่างเสียงจะพูดอีกภาษา, ใช้ลบเสียงรบกวนและตัดต่อข้อความได้ โดยการตัดช่วงเวลาที่ไม่ต้องการออกจากตัวอย่าง แล้วใส่แต่ข้อความเข้าไป
Meta อัพเดตแนวทางดูแลจัดการเนื้อหาที่เกี่ยวกับโควิด 19 บนแพลตฟอร์ม จากที่ผ่านมาเนื้อหาซึ่งให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโควิด 19 จะถูกแบน หรือติดป้ายกำกับคำเตือน ซึ่งเป็นแนวทางที่ Oversight Board ของ Meta กำหนดไว้ โดยจะเริ่มผ่อนปรนแนวทางควบคุม
โดยกฎการดูแลจัดการเนื้อหาที่เกี่ยวกับโควิด 19 ทั้งหมด จะถูกยกเลิก มีผลกับผู้ใช้งานทั่วโลก เนื่องจากในระดับโลกนั้น โควิด 19 ถูกลดระดับจากโรคระบาดร้ายแรงฉุกเฉินแล้ว อย่างไรก็ตาม Meta จะยังคงใช้กฎนี้ต่อเฉพาะในประเทศที่โควิด 19 ยังถูกกำหนดเป็นโรคระบาดฉุกเฉิน
ทีมวิจัยของ Meta ได้โอเพนซอร์ส MusicGen ชุดเครื่องมือ AI สำหรับสร้างดนตรีขึ้นใหม่ โดยอาศัยข้อมูล prompt ตัวหนังสืออธิบายรูปแบบเพลงที่ต้องการ หรือใช้เมโลดี้ของเพลงตั้งต้น ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นดนตรีที่มีความยาวมากน้อยแล้วแต่กรณี
โค้ดเผยแพร่ภายใต้สัญญา MIT สำหรับงานวิจัย หรือเพื่อนำไปผลิตซ้ำ รายละเอียดใน GitHub ของโครงการนี้
The Washington Post ได้รายงานอ้างอิงผลการสำรวจภายในของบริษัท Meta ระหว่างวันที่ 26 เมษายน-10 พฤษภาคม ซึ่งผลปรากฎว่า มีพนักงานเพียง 26% เท่านั้นที่เชื่อมั่นในซีอีโออย่าง Mark Zuckerberg ซึ่งลดลง 5% จากการสำรวจเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
Mark Zuckerberg กล่าวในการประชุมภายในบริษัทถึงแผนการที่จะนำ Generative AI มาใช้ในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของบริษัท และจะนำบางเทคโนโลยีมาใช้ภายในด้วย แต่จะเน้นออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อผู้ใช้โดยตรง
Mark ระบุด้วยว่า Meta จะพัฒนาทั้งในรูปแบบข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, ภาพ 3 มิติ ไปจนถึงโลกเสมือนอย่าง Metaverse โดย WhatsApp และ Messenger น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แรกๆ ที่ได้ Generative AI ก่อน เช่น แชทบอท ที่สามารถเลือกบุคลิกลักษณะได้ถึง 30 แบบ โดยก่อนหน้านี้มีภาพหลุดของแชทบอทตัวนี้บน Instagram มาแล้ว
ซีอีโอ Meta ยืนยันด้วยว่าบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการเปิดเผยงานวิจัยและแบ่งปันเทคโนโลยี AI กับชุมชนโอเพนซอร์สต่างๆ ด้วย
หลังจากสัปดาห์ที่แล้วที่ Meta ได้เปิดตัว Quest 3 และ Apple เพิ่งประกาศเปิดตัว Vision Pro ไปเมื่อวันอังคาร ล่าสุดซีอีโอ Meta Mark Zuckerberg ก็ได้เผยแพร่วิดีโอลักษณะของการรับชม Reels บนโลกเหมือนด้วย Quest
การแสดงผลของ Reels จะไม่ต่างกับบนแพลตฟอร์มอื่นมากนัก โดยจะอยู่ในหน้าต่างที่ลอยอยู่ในโลก VR และแม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าจะมีฟีเจอร์ Reels ให้ใช้งานบนแอป Instagram สำหรับ Quest หรือไม่ และจะมีเปิดให้ผู้ใช้ได้ทดลองก่อนหรือเปล่า แต่การที่บริษัทนำ Reels มาสู่ Quest นั้นแสดงให้เห็นว่า Meta พร้อมจะเชื่อมโยงแอปและระบบต่าง ๆ ของ Meta ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ Instagram ได้เผยภาพแอปตัวใหม่ที่เน้นการสนทนาผ่านตัวหนังสือคล้ายกับ Twitter โดยในงานประชุมที่ของบริษัททางผู้บริหารได้แสดงตัวอย่างแอปใหม่นี้ให้กับพนักงานได้ดู โดยใช้ชื่อภายในว่า Project 92
แอปใหม่นี้จะใช้ข้อมูลของ Instagram รวมเข้ากับ ActivityPub ซึ่งเป็นโปรโตคอล Social Network แบบกระจายศูนย์ ทำให้ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลบัญชีและผู้ติดตามซิงค์ไปยังแอปใหม่ที่รองรับ ActivityPub ได้ รวมถึง Mastodon ด้วย
หลังการเปิดตัว Vision Pro เฮดเซต Mixed Reality ของแอปเปิล ซึ่งอาจเป็นคำตอบของผลิตภัณฑ์โลกเสมือน ล่าสุด Mark Zuckerberg ผู้จุดกระแสคำว่า Metaverse ก็ออกมาให้ความเห็นต่อ Vision Pro แล้ว
โดยมีรายงานจากการประชุมพนักงาน Meta ล่าสุด ซึ่ง Zuckerberg ให้ความเห็นต่อ Vision Pro ว่า เทคโนโลยีที่นำเสนอไม่มีเรื่องใหม่ที่เกินคาดคิด Meta เคยศึกษาแนวทางเหล่านี้มาทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้เขายังให้ความเห็นกับราคาเฮดเซต 3,499 ดอลลาร์ ว่าสิ่งนี้สะท้อนแนวทางแอปเปิลที่แตกต่างจาก Meta มาก เพราะบริษัทต้องการทำสินค้าที่ทุกคนเข้าถึงได้ โดย Quest 3 มีราคา 499 ดอลลาร์ ส่วน Quest Pro ราคา 999 ดอลลาร์
จากการสืบสวนร่วมกันโดย The Wall Street Journal และนักวิชาการที่ Stanford University และ University of Massachusetts Amherst พบว่าระบบแนะนำบัญชีของ Instagram มีส่วนช่วยโปรโมทให้เครือข่ายกลุ่มคนใคร่เด็ก (pedophile) ด้วยการเชื่อมโยงคนที่ชอบคอนเทนต์ลักษณะนี้ ให้ไปเจอกับกลุ่มผู้ขายคอนเทนต์
บัญชีลักษณะนี้ จะโฆษณาโดยใช้แฮชแท็กที่เข้าข่ายการขายเนื้อหาให้กับกลุ่มคนใคร่เด็กชัดเจน เช่น #pedowhore, #preteensex และ #pedobait ซึ่งแฮชแท็กเหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งให้กับทั้งผู้ซื้อหรือคนกลาง โดยมีทั้งรูปแบบวิดีโอและภาพ รวมถึงคอนเทนต์ประเภททำร้ายตนเอง และมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์
Bloomberg รายงานข้อมูลโดยการสัมภาษณ์พนักงานของ Meta จำนวนหนึ่ง พบว่าพนักงานแทบไม่ใช้แว่น Meta Quest ในการทำงานเลย แม้ว่าบริษัทพยายามขายโซลูชันการใช้แว่น VR ในการทำงานให้กับบริษัทอื่นๆ (ที่ระบุชื่อคือ Walmart และ Accenture) ในการประชุม-ฝึกอบรมก็ตาม
การปฏิเสธไม่ใช้แว่น VR เกิดขึ้นแม้ในฝ่ายพัฒนา VR เอง รวมถึงผู้บริหารระดับสูงอย่าง Nick Clegg (ตำแหน่งคือ President of Global Affairs ดูแลงานด้านภาครัฐทั้งหมด) เคยลองประชุมด้วย VR แล้วเลิกไปเพราะรู้สึกว่าไม่เวิร์ค นอกจากนี้ นโยบายด้านสุขภาพพนักงานของ Meta เองก็เตือนว่าไม่ควรใช้แว่น VR ต่อเนื่องเกิน 30 นาทีด้วย
Meta เริ่มแจ้งพนักงานทั้งหมดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการทำงานแบบรีโมท โดยกำหนดให้พนักงานต้องเข้าทำงานในสำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มีผลในเดือนกันยายนเป็นต้นไป โดยข้อกำหนดนี้ไม่มีผลกับพนักงานที่ถูกกำหนดให้ทำงานแบบรีโมทตั้งแต่แรก
Meta บอกว่าการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดนี้เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้ดี รักษาความสัมพันธ์ และส่งเสริมวัฒนกรรมองค์กร
ในโอกาสเดียวกับการเปิดตัวแว่น Meta Quest 3 บริษัท Meta ก็ประกาศลดราคาแว่นรุ่นเก่า Quest 2 มีผลตั้งแต่ 4 มิถุนายนเป็นต้นไป
Meta เปิดตัวแว่น Quest 3 ที่พัฒนาขึ้นจากเดิมในทุกด้าน ขนาดเครื่องบางลงกว่าเดิม เตรียมวางขายช่วงฤดูใบไม้ร่วงปลายปีนี้ ในราคาเริ่มต้น 499 ดอลลาร์ (รุ่นความจุ 128GB)
ดีไซน์ของ Meta Quest 3 มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากรุ่นก่อนๆ ตรงที่มีรูด้านหน้าแว่น 3 รูสำหรับกล้องด้านหน้า ของใหม่ที่สำคัญคือกล้องแบบ Color Passthrough มองเห็นภาพจากโลกด้านนอกเป็นภาพสีความละเอียดสูงแล้ว (ของเดิมเป็นขาวดำ) โดยเป็นกล้องคู่ความละเอียด 4MP RGB และตรงกลางเป็นเซ็นเซอร์วัดระยะลึก เพื่อให้วัดพื้นที่ด้านหน้าตอนใช้งานได้แม่นยำขึ้น
เมื่อปี 2020 Meta เคยตัดการเข้าถึงข่าวแบบชั่วคราวบน Facebook ในออสเตรเลีย เหตุการณ์นี้อาจซ้ำรอยอีกครั้งที่สหรัฐฯ
เมื่อวันพุธทาง Meta ได้ขู่ว่าจะแบนการโพสลิงก์ข่าวบน Facebook และ Instagram ในรัฐแคลิฟอร์เนีย หากสภานิติบัญญัติผ่านร่างกฎหมาย California Journalism Preservation Act (CJPA) ที่บังคับให้โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram หรือเสิร์ชเอนจินอย่าง Google ต้องจ่าย "ค่าธรรมเนียมการใช้สื่อ” ให้แก่สื่อมวลชนเมื่อผู้ใช้เข้าถึงบทความและขายโฆษณาผ่านเนื้อหาข่าว การยุติการเข้าถึงข่าวอาจกระทบต่อชาวแคลิฟอร์เนียกว่า 39 ล้านคน
หน่วยงานด้านการแข่งขันและตลาดของอังกฤษ (Competition and Markets Authotiry - CMA) ออกคำสั่งให้ Meta ขาย Giphy ด้วยเหตุผลด้านการผูกขาดตั้งแต่ปี 2021 ก่อนที่ Meta จะยื่นอุทธรณ์และแพ้
ล่าสุด Shutterstock แพลตฟอร์มกลางสำหรับขายภาพสต๊อก ภาพถ่ายหรือกราฟิค ประกาศซื้อกิจการ Giphy จาก Meta แล้วด้วยมูลค่า 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่า Meta ซื้อ Giphy มาที่มูลค่าราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะไม่มีการเปิดเผยมูลค่าดีลก็ตาม
Financial Times รายงานข่าวลือว่า Meta กำลังเจรจากับ Magic Leap บริษัทสตาร์ตอัพด้านแว่น AR เพื่อซื้อไลเซนส์เทคโนโลยีของ Magic Leap มาใช้งาน รวมถึงอาจจ้าง Magic Leap ที่มีฐานผลิตในอเมริกาเหนือเป็นผู้ผลิตแว่น AR แทนการจ้างบริษัทผู้ผลิตจากจีน
Magic Leap เป็นเจ้าของชิ้นส่วนสำคัญๆ ในแว่น AR ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง (แม้ไม่ประสบความสำเร็จในแง่ธุรกิจมากนัก) เช่น เลนส์ ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยี waveguide ที่นำกระจกบางๆ มาวางอยู่ด้านหน้านัยน์ตา แล้วแสดงภาพที่มีระยะลึกแตกต่างกัน
Meta ประกาศเผยแพร่โมเดลและโค้ด ของโครงการพัฒนาระบบเสียงพูดในภาษาต่าง ๆ ขนาดใหญ่ (Massively Multilingual Speech - MMS) เพื่อให้ผู้ที่ทำงานวิจัยในส่วนนี้สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ โดยโครงการนี้พัฒนาเพิ่มจากระบบแปลงเสียงเป็นข้อความ wav2vec และโมเดลแปลภาษา NLLB ที่เคยเผยแพร่ก่อนหน้านี้
โครงการ MMS เป็นการพัฒนาโมเดลเรียนรู้ภาษาต่าง ๆ ด้วย AI โดยสามารถรู้จำเสียงในภาษาต่าง ๆ ได้มากกว่า 4,000 ภาษา และสร้างเสียงจากข้อความ (text-to-speech) ได้มากกว่า 1,100 ภาษา ซึ่งเป็นการพัฒนาที่มากกว่าเครื่องมือระบบรู้จำเสียงภาษาต่าง ๆ ที่มีอยู่ปัจจุบัน ซึ่งรองรับประมาณ 100 ภาษา เพราะยังมีอีกหลายพันภาษาในโลกที่มีฐานข้อมูลเบื้องต้นน้อยมาก และกว่าครึ่งหนึ่งในนั้นกำลังจะหายไปเนื่องจากมีคนใช้งานน้อยลง บางภาษามีคนที่ยังพูดและใช้อยู่ไม่กี่ร้อยคนในโลกเท่านั้น
กรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแห่งไอร์แลนด์ (Ireland’s Data Protection Commission - DPC) สั่งปรับ Meta เจ้าของเฟซบุ๊กฐานส่งข้อมูลผู้ใช้ที่อยู่ในสหภาพยุโรปไปยังสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2020 เป็นต้นมา
ที่ผ่านมา Meta ต่อสู้ว่าการส่งข้อมูลไปยังสหรัฐฯ นั้นอาศัยฐานสัญญาการให้บริการ และในความเป็นจริงก็มีธุรกิจนับพันที่ส่งข้อมูลข้ามทวีปไปมา แต่ Meta กลับถูกเล่นงานอยู่รายเดียว ทาง Meta ยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินนี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา Meta เปิดตัวชิป AI ออกแบบเองชื่อ MTIA แต่จริงๆ แล้วยังมีชิปประมวลผลวิดีโออีกตัวชื่อ MSVP (Meta Scalable Video Processor) เปิดตัวมาพร้อมกัน
MSVP เป็นชิป ASIC ที่ทีมออกแบบชิปของ Meta พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาปริมาณวิดีโอเพิ่มขึ้นมาก จึงต้องมีชิปเฉพาะทางมาเพื่อเข้ารหัสวิดีโอ ทั้งแบบออนดีมานด์ (VOD) ที่ต้องการคุณภาพ และแบบไลฟ์สตรีมที่ต้องการ latency ต่ำ
Meta บอกว่าทุกวันนี้เฉพาะบริการ Facebook อย่างเดียวมีปริมาณการชมวิดีโอวันละ 4 พันล้านวิว และเมื่อ codec วิดีโอรุ่นใหม่ๆ ต้องการพลังประมวลผลตอนเข้ารหัสมากขึ้นเรื่อยๆ (อาจสูงถึง 10 เท่าจากเดิม) จึงต้องมีโซลูชันที่แก้ปัญหาเรื่องระยะเวลาและพลังงานในการเข้ารหัส