Disney ประกาศขึ้นราคาบริการสตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกาทั้ง 3 ตัวคือ Disney+, Hulu, ESPN+ โดยแพ็กเกจ Disney+ แบบมีโฆษณาเพิ่มจากเดือนละ 7.99 ดอลลาร์เป็น 9.99 ดอลลาร์ และแพ็กเกจแบบไม่มีโฆษณาเพิ่มจาก 13.99 ดอลลาร์เป็น 15.99 ดอลลาร์

การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลในวันที่ 17 ตุลาคม 2024 เฉพาะลูกค้าในสหรัฐอเมริกา และไม่รวมถึงกรณีของไทยที่เป็นบริการแยกอีกตัวคือ Disney+ Hotstar ซึ่งขึ้นราคาไปก่อนแล้ว

ในงานแถลงผลประกอบการของ Disney เมื่อคืนนี้ ซีอีโอ Bob Iger ยืนยันว่าจะเริ่มใช้มาตรการแบนลูกค้าที่แชร์รหัสผ่านกันในเดือนกันยายน 2024 แบบเดียวกับที่ Netflix ทำมาก่อนแล้ว และประสบความสำเร็จดี

เก็บตกงานแถลงผลประกอบการ Sony ไตรมาส 2/2024 ฝั่งของธุรกิจเกม ตอนนี้ฮาร์ดแวร์ PS5 มียอดขายรวม 61.7 ล้านเครื่อง

Sony ขายเครื่อง PS5 ได้ 2.4 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ถือว่าลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขายได้ 3.3 ล้านเครื่องอยู่พอสมควร แต่ก็เป็นไปตามที่ Sony เคยประกาศไว้ในไตรมาสก่อนว่า PS5 เลยจุดพีคมาแล้ว ยอดขายเครื่องจะตกลงเรื่อยๆ ต้องรอดูกันว่า PS5 Pro ที่มีข่าวว่าจะวางขายช่วงปลายปี 2024 จะช่วยกู้สถานการณ์ได้แค่ไหน

Meta ปิดสตูดิโอพัฒนาเกม Ready at Dawn ที่เคยมีผลงานเกม Lone Echo 1-2 มาก่อน

Ready at Dawn ก่อตั้งในปี 2003 ช่วงแรกเน้นทำเกมสำหรับ PSP แต่ภายหลังผันตัวมาเป็นสตูดิโอที่เชี่ยวชาญเกม VR และถูก Meta ซื้อกิจการมาในปี 2020 เพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Oculus Studios (ชื่อในตอนนั้น) เน้นทำเกม VR เพื่อเสริมยอดขายของแว่น Oculus/Meta Quest

เดือนที่แล้วเพิ่งมีข่าวลือว่า Meta ตัดงบประมาณของฝ่าย Reality Labs ที่ดูแลกิจการ VR ทั้งหมดลง จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ Ready at Dawn โดนปิดในครั้งนี้ด้วย

สำนักข่าว Reuters รายงานข้อมูลอ้างจากคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง 4 คน บอกว่าเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว อินเทลได้รับข้อเสนอให้ลงทุนใน OpenAI ที่เวลานั้นยังมีสถานะเป็นบริษัทวิจัยปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่แสวงหากำไร กำลังวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับ Generative AI

ผู้บริหารของอินเทลและ OpenAI ได้หารือกันหลายครั้งช่วงปี 2017-2018 ข้อเสนอการลงทุนนั้นมีหลายอย่าง เช่น OpenAI เสนอให้อินเทลถือหุ้น 15% โดยจ่ายเงินสด 1 พันล้านดอลลาร์ รวมทั้งให้ข้อเสนอถือหุ้นเพิ่มอีก 15% แลกกับอินเทลต้องขายฮาร์ดแวร์ประมวลผลให้ OpenAI ที่ราคาต้นทุน

แอปเปิลออกอัปเดตย่อยให้กับระบบปฏิบัติการของ iPhone, iPad และ Mac โดยระบุว่ามีการแก้ไขบั๊กและช่องโหว่ความปลอดภัยที่สำคัญ รวมทั้งบั๊กที่ทำให้เปิดหรือปิดการใช้งานตัวเข้ารหัส iCloud แบบ end-to-end Advanced Data Protection ไม่ได้ โดยในตอนนี้ยังไม่ได้เผยแพร่รายละเอียดช่องโหว่ความปลอดภัย

อัปเดตนี้ยังรวมไปถึง iOS และ macOS เวอร์ชันเก่าสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดได้ด้วย มีรายละเอียดดังนี้

เกม Star Wars Jedi: Survivor ของค่าย EA/Respawn วางขายไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 และทำผลงานออกมาดีในแง่เสียงวิจารณ์กับยอดขาย แต่หลายคนอาจลืมกันไปแล้วว่า เกมสัญญาจะออกเวอร์ชันคอนโซลรุ่นก่อนหน้าคือ PS4 กับ Xbox One ด้วย

ล่าสุด EA ประกาศแล้วว่า Star Wars Jedi: Survivor มีกำหนดขายบน PS4 กับ Xbox One ในวันที่ 17 กันยายน 2024 (ทิ้งช่วงจากพีซีและคอนโซลยุคใหม่ไป 1 ปีครึ่ง แต่ก็ยังไม่ลืมกัน) ในราคา 49.99 ดอลลาร์

ก่อนหน้านี้แอปเปิลบอกว่า Apple Intelligence ความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะมีให้ใช้งานใน iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษแบบสหรัฐฯ ก่อน และจะเพิ่มภาษาอื่น ๆ ต่อจากนั้น โดยประเทศในยุโรปไม่น่าได้ใช้งานภายในปีนี้ เพราะแอปเปิลต้องตรวจสอบประเด็นกฎหมายดิจิทัล DMA ของสหภาพยุโรป

อย่างไรก็ตามข้อมูลในอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ที่ตอนนี้อยู่ในสถานะเบต้าสำหรับนักพัฒนา พบว่า macOS Sequoia อาจเปิดให้ใช้งาน Apple Intelligence ได้เลย โดยไม่มีประเด็นเรื่องกฎหมายของ EU

WordStar เป็นซอฟต์แวร์ word processor ยุคแรกๆ เพราะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1978 ในยุคเครื่อง CP/M หลังจากนั้นจึงขยายมายัง MS-DOS และ Windows ในยุคแรกๆ ก่อนพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งคือ WordPerfect และ Microsoft Word จนล้มหายตายจากไปในวงการ

แต่ WordStar ยังมีกลุ่มแฟนๆ ที่ยังใช้งานอยู่เหนียวแน่น โดยเฉพาะสายนักเขียนนิยาย เช่น George R.R. Martin ที่เขียน Game of Thrones ด้วย WordStar 4.0 แม้ว่าตัวซอฟต์แวร์ไม่ได้อัพเดตมานานมากแล้วก็ตาม (WordStar เวอร์ชันสุดท้ายบน DOS คือเวอร์ชัน 7.0D ออกปี 1992)

ดิสนีย์รายงานผลประกอบการของไตรมาสเดือนมิถุนายน โดยธุรกิจสตรีมมิ่งทั้งหมดของดิสนีย์ (กลุ่ม Direct-to-Consumer หรือ DTC รวมกับ ESPN+) มีกำไรจากการดำเนินงานเป็นครั้งแรก 47 ล้านดอลลาร์ จากไตรมาสก่อนหน้านี้เฉพาะ DTC (Disney+ และ Hulu) ที่มีกำไร

Bob Iger ซีอีโอดิสนีย์กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาธุรกิจบันเทิงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งภาพยนตร์ใน Box Office และธุรกิจสตรีมมิ่งที่มีกำไรเป็นครั้งแรก โดย Inside Out 2 ทำรายได้ทั่วโลกมากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เป็นภาพยนตร์อนิเมชันทำเงินสูงสุดตลอดกาล

Disney+ มีจำนวนสมาชิกทั่วโลก 118.3 ล้านบัญชี โดยยังไม่รวม Disney+ Hotstar ที่มีสมาชิก 35.5 ล้านบัญชี ส่วน Hulu มีสมาชิก 51.1 ล้านบัญชี

CMA หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของสหราชอาณาจักร ได้อนุมัติดีลที่ Hewlett Packard Enterprise หรือ HPE ประกาศซื้อกิจการ Juniper Networks เมื่อเดือนมกราคมแล้ว หลังจากที่ CMA ประกาศเข้าสอบสวนดีลนี้เนื่องจากมองว่าเป็นการการลดการแข่งขันในตลาด โดยบอกว่าไม่มีข้อกังวลในเรื่องนี้

HPE ได้ประกาศแผนซื้อกิจการทั้งหมดของ Juniper Networks บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายเช่น เราเตอร์ สวิตช์ ซึ่ง HPE ต้องการนำมาเสริมกับสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายที่มีอยู่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ที่มา: Bloomberg

แอปเปิลประกาศเพิ่มคุณสมบัติแผนที่โดยสารแบบเรียลไทม์ (Real-Time Transit) ใน Apple Maps สำหรับพื้นที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รองรับข้อมูลรถไฟมากกว่า 20 สาย รวมทั้งรถเมล์และรถราง

คุณสมบัติแผนที่โดยสารแบบเรียลไทม์นี้ทำให้ผู้ใช้งาน Apple Maps ได้ข้อมูลกำหนดเวลาเดินทาง ทั้งเวลาออกเดินทาง และเวลาถึงที่หมายที่เป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เส้นทางขัดข้องหรือการเดินทางล่าช้า โดยแอปเปิลใช้ข้อมูลจากหน่วยงาน ODPT หรือ Open Data Public Transportation Council

ไมโครซอฟท์ประกาศว่าแอพ Windows App เข้าสถานะเปิดใช้งานทั่วไป (general availability)

แอพชื่อ Windows App เปิดตัวครั้งแรกช่วงปลายปี 2023 มีไว้ใช้งานเดสก์ท็อปบนคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ได้แก่บริการ Azure Virtual Desktop, Windows 365 สำหรับลูกค้าธุรกิจ, Microsoft Dev Box สำหรับนักพัฒนา

วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows App เวอร์ชัน Windows, iOS, macOS, เว็บเข้าสถานะ GA เรียบร้อยแล้ว และประกาศทำเวอร์ชัน Android เพิ่ม โดยจะเปิดให้ทดสอบในเร็วๆ นี้

Dell เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายล่าสุดที่ประกาศปลดพนักงานจำนวนมาก (มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่ามากถึง 12,500 คน หรือประมาณ 10% ของพนักงานทั้งหมด) โดยให้เหตุผลว่าต้องการเป็นบริษัทที่คล่องตัวกว่าเดิม (we are becoming a leaner company)

ในเอกสารภายในของ Dell ที่หลุดออกมา ให้เหตุผลว่าต้องการปรับโครงสร้างบริษัท จัดลำดับความสำคัญใหม่ ลดระดับชั้นของสายบังคับบัญชาลง

การปลดพนักงานครั้งใหญ่รอบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของ Dell เพราะเพิ่งปลดไปรอบหนึ่ง 13,000 คนในช่วงต้นปี 2023

ก่อนหน้านี้ Hanneke Faber ซีอีโอ Logitech ได้พูดถึงไอเดียการขายเมาส์แบบ Subscription จ่ายเงินค่าซอฟต์แวร์ แล้วสามารถใช้งานได้ตลอดชีวิตเป็น Forever Mouse ในรายการพอดแคสต์ของ The Verge แต่ดูเหมือนกระแสตอบรับจะไม่ซื้อไอเดียนี้กันเท่าใดนัก Logitech เลยต้องชี้แจงเพิ่มเติม

Nicole Kenyon หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรของ Logitech ออกแถลงการณ์ต่อเรื่องนี้โดยบอกว่า บริษัทไม่มีแผนในการขายเมาส์แบบ Subscription แต่อย่างใด รูปแบบเมาส์ที่พูดถึงในรายการนั้น ยังไม่มีการทำออกมาจริงหรือวางแผน เพียงแต่ซีอีโอ Faber ต้องการนำเสนอมุมมองหรือความเป็นไปได้ในอนาคต ของการสร้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อความยั่งยืน

KNIME บริษัทซอฟต์แวร์ด้าน Data Science และ AI แบบโอเพนซอร์ส ประกาศรับเงินเพิ่มทุน 30 ล้านดอลลาร์ จากผู้ลงทุนเดิมคือกองทุน Invus ซึ่งลงทุนแล้วรวม 50 ล้านดอลลาร์

เงินลงทุนรอบใหม่นี้ KNIME บอกว่าจะนำมาใช้ขยายทีมงาน จากปัจจุบันมีพนักงาน 250 คนทั่วโลก ดูแลลูกค้าองค์กรที่จ่ายเงินใช้งานเกือบ 400 แห่ง มีรายได้ปีที่ผ่านมา 30 ล้านยูโร

KNIME เป็นซอฟต์แวร์ด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลแบบ low-code มีผู้ใช้งานเกือบ 5 แสนคน โมเดลรายได้คือการขายซอฟต์แวร์ให้ลูกค้าองค์กรที่มีการสนับสนุน และใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้เต็มประสิทธิภาพ

Reddit ประกาศการเปลี่ยนแปลงในโพสต์ประเภท AMA หรือ "ask me anything" แบบใหม่ ซึ่งเปิดให้สมาชิกในชุมชนสามารถถามคำถาม และได้รับคำตอบจากเจ้าของโพสต์อย่างใกล้ชิด ซึ่งหลายครั้งได้บุคคลมีชื่อเสียงมาร่วมเปิดโพสต์ประเภทนี้ด้วย

Reddit บอกว่าหลังจากรับฟังความเห็นของผู้ใช้งาน จึงปรับปรุงให้ AMA เป็นโพสต์ที่มีลักษณะพิเศษมากกว่าโพสต์ปกติ โดยสามารถตั้งกำหนดเวลาล่วงหน้า และโปรโมต AMA ได้ภายในโพสต์เดียว, สามารถตั้งโคโฮสต์ได้สูงสุด 5 คน, เพิ่มแท็บสำหรับสร้าง AMA ในแอปบนสมาร์ทโฟน, ดูคำถามทั้งหมดย้อนหลังได้ รวมทั้งคำถามที่ไม่ถูกเลือกมาตอบ และโฮสต์สามารถเพิ่มสเตตัสหลังจบเซสชัน AMA ที่อาจเป็นข้อความส่งท้าย หรือลิงก์ที่ต้องการนำเสนอ

AMD ประกาศวางขายซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9000 ชุดแรกในวันพรุ่งนี้ 8 สิงหาคม หลังจากเลื่อนมาเล็กน้อยเพราะปัญหาคุณภาพสินค้าล็อตแรกๆ พร้อมประกาศราคาซีพียูซีรีส์ Ryzen 9000 ทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ดังนี้

• 8 สิงหาคม

กูเกิลเปิดตัว Nest Learning Thermostat รุ่นใหม่ (นับเป็น 4th Gen) ใช้หน้าตาแบบใหม่ ตรงตามภาพหลุดก่อนหน้านี้

ดีไซน์ใหม่ของ Nest Learning Thermostat เป็นกระจกทรงโดมโค้งไร้ขอบ ดูเรียบหรูและมินิมัลกว่าเดิม ตัวหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 60% เพิ่มฟีเจอร์ Dynamic Farsight ปรับธีมและข้อมูลที่ต้องการแสดงผลได้ คล้ายๆ กับหน้าปัดนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ รองรับการแสดงอุณหภูมิ นาฬิกา สภาพอากาศ คุณภาพอากาศภายนอก

โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนมิถุนายน 2024 มียอดขายรวม 3.01 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.32 แสนล้านเยน

รายได้และกำไรที่เติบโตสูงนั้น โซนี่บอกว่ามาจากยอดขายธุรกิจเกม และเซ็นเซอร์ภาพถ่าย ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ส่วนธุรกิจเพลงก็มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นสูง ขณะที่กลุ่มธุรกิจการเงินมีรายได้ลดลงมาก

กูเกิลอัปเดตความสามารถของอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั้ง Nest Camera และฟังก์ชันใน Google Home ด้วยพลังของ Gemini AI เพื่อให้รองรับการทำงานที่ฉลาดมากขึ้น มีรายละเอียดดังนี้

ความสามารถแรก เป็นการแยกแยะข้อมูลในวิดีโอ โดย Nest Camera สามารถเรียนรู้ทำความเข้าใจวัตถุที่เห็นในภาพดีขึ้น ไม่ใช่แค่จับว่ามีการเคลื่อนไหว ผู้ใช้งานสามารถค้นหาด้วยคำถามเช่น "Did the kids leave their bikes in the driveway?" แล้ว Google Home สามารถค้นวิดีโอย้อนหลังที่ตรงกับเงื่อนไขที่ถามออกมา

Mishaal Rahman จาก Android Authority พบโค้ดใน Android 15 เวอร์ชัน Beta ที่เปิดให้ สมาร์ตโฟนปกติสามารถใช้งาน Taskbar ขนาดย่อมได้ เหมือนแท็บเล็ตและสมาร์ตโฟนจอพับ แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเปิดให้ใช้งานจริงหรือไม่ โดย Rahman สั่งเปิดฟังก์ชันนี้เองเพื่อทดลองใช้งาน

ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ฟังก์ชันนี้ได้ผ่านการปัดขอบล่างหน้าจอขึ้น ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะให้แสดง Taskbar ตลอด หรือจะให้หายไปอัตโนมัติ โดย Taskbar จะประกอบด้วยแอปพลิเคชัน 4 ตัว และเมนูเรียกใช้แอปพลิเคชันอื่น ๆ อีก 1 ปุ่ม มีจุดประสงค์หลัก ๆ คือการใช้งานแบบ Multitasking

เจนเซน หวง ซีอีโอของ NVIDIA ขายหุ้นของตัวเองออกไปกว่า 322.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม อ้างอิงจากข้อมูลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นการขายหุ้นครั้งประวัติศาสตร์ของตัวเขา ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาเขาขายหุ้นออกไปรวม ๆ แล้วเกือบ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

การขายหุ้นครั้งนี้อยู่ในแผนการซื้อขายล่วงหน้าตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ก็ถือว่าเกิดขึ้นค่อนข้างถูกเวลา เพราะการขายครั้งนี้คาบเกี่ยวกับการปรับฐานของหุ้นเทคในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ และผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าคาดของบริษัทเทค

Supermicro รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน ยอดขายรวม 5,308 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 143% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 353 ล้านดอลลาร์ ตามบัญชี GAAP

Charles Liang ประธานและซีอีโอ Supermicro กล่าวว่าตลอดปีการเงินที่ผ่านมา มีความต้องการสินค้าสูงจนทำสถิติใหม่โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับงาน AI บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายสู่การเป็นบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีรายใหญ่ที่สุด มีเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำ รวมทั้งระบบระบายความร้อนที่ระดับแร็ก และโซลูชันสำหรับการติดตั้งเครื่องในศูนย์ข้อมูล

Supermicro ยังประกาศแผนแตกหุ้น (Stock Split) 1 หุ้นเดิมเป็น 10 หุ้นใหม่ (10-for-1) มีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

Airbnb รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2024 มีรายได้ 2,748 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 555 ล้านดอลลาร์

ตัววัดผลที่สำคัญของ Airbnb ได้แก่ จำนวนการจองและกิจกรรมบนแพลตฟอร์มรวม เพิ่มขึ้น 9% เป็น 125.1 ล้านคืน และมีมูลค่าการจองรวม 21.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดสำหรับไตรมาสที่สอง การเติบโตโดดเด่นจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และลาตินอเมริกา

ประเด็นผลกระทบของสายการบิน Delta จากเหตุการณ์ Windows จอฟ้า เพราะอัปเดตของ CrowdStrike ที่สายการบินเตรียมเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านดอลลาร์ และ CrowdStrike ได้ออกมาตอบโต้ ยังมีเรื่องราวต่อไป คราวนี้มาจากฝั่งไมโครซอฟท์