การ์มินเปิดตัว MARQ Adventurer (Gen 2) นาฬิการะดับลักชัวรี่ ในรุ่นย่อย Damascus Steel Edition ราคา 3,100 ดอลลาร์ (ประมาณ 105,000 บาท) มาในตัวเรือนและขอบหน้าปัดจากเหล็กดามัสกัส พร้อมสายนาฬิกาแบบไฮบริดระหว่างหนังและยางฟลูออโรคาร์บอน และกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัล
สเปคของ MARQ Adventurer (Gen 2) Damascus Steel Edition
เว็บไซต์ The Verge รายงานข่าวจากแวดวงว่า OpenAI เตรียมเปิดตัวโมเดลเวอร์ชันสำคัญตัวใหม่โค้ดเนม Orion ในเดือนธันวาคมนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า GPT-5 หรือไม่
ตามข่าวบอกว่าในช่วงแรกๆ Orion จะยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไปผ่าน ChatGPT แบบที่แล้วๆ มา แต่จะเปิดให้บริษัทพาร์ทเนอร์ใกล้ชิดลองใช้งานก่อน เพื่อนำ Orion ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของพาร์ทเนอร์เอง ตัวอย่างคือไมโครซอฟท์จะเริ่มโฮสต์ Orion บนระบบ Azure ในเดือนพฤศจิกายน "เป็นอย่างเร็ว"
The New York Times รายงานว่าเมื่อปี 2005 หรือประมาณ 19 ปีก่อน Paul Otellini ซีอีโอของอินเทล ณตอนนั้น เคยคิดจะซื้อกิจการ NVIDIA ในราคา 2 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่แนวคิดนี้ถูกบอร์ดของอินเทลปัดตกไป
แนวคิดของ Otellini ในตอนนั้นคืออยากซื้อ NVIDIA เพื่อไปทำจีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูล ซึ่งในเวลานั้นเพิ่งเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม บอร์ดของอินเทลมองว่าราคา 2 หมื่นล้านดอลลาร์นั้นแพงไป และบอร์ดมองว่าควรพัฒนาจีพียูขึ้นเองมากกว่า ซึ่งก็คือโครงการ Larrabee ที่นำทีมโดย Pat Gelsinger ซีอีโอคนปัจจุบันของอินเทล ก่อนที่เขาจะลาออกจากอินเทลในปี 2009
แอปเปิลปล่อย Private Cloud Compute (PCC) ระบบเซิร์ฟเวอร์ให้บริการแบบตรวจสอบได้และไม่เก็บตัวตนผู้ใช้ โดยตัวซอฟต์แวร์ใส่มากับ macOS Sequoia 15.1 Developer Preview ทุกเครื่องอยู่แล้ว แต่ต้องไปเปิดใช้งานเอง เพื่อจะได้คำสั่ง pccvre
ขึ้นมารัน
อิมเมจที่ปล่อยมาเป็นอิมเมจสำหรับทดสอบความปลอดภัย แต่ก็มีปัญญาประดิษฐ์ LLM รุ่นสาธิตมาให้ด้วย ทำให้สามารถรัน LLM ได้เองจริงๆ แต่เป้าหมายที่แท้จริงของการแจกโปรแกรมคือการเปิดให้นักวิจัยตรวจสอบ virtualized environment ว่ามีความปลอดภัยตามที่แอปเปิลโฆษณาไว้
ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เผยแพร่แนวทาง Shared Responsibility Framework กำหนดความรับผิดชอบของธนาคารและผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในกรณีที่ลูกค้าถูกหลอกลวง โดยมุ่งเป้าการหลอกลวงในกลุ่มการปลอมตัวแบบ phishing และแอปดูดเงินก่อน แต่การหลอกลวงที่เหยื่อตกลงโอนเงินด้วยตัวเอง เช่น การหลอกลงทุน ยังไม่เข้าข่ายประกาศนี้
แม้ประกาศจะครอบคลุมถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ แต่ก็มีความรับผิดชอบเพียงแค่คัดกรอง SMS, ตรวจสอบและบล็อคข้อควาามเสี่ยงสูงเท่านั้น ความรับผิดชอบส่วนใหญ่อยู่กับธนาคาร โดยประกาศบังคับให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ต้องวางมาตรการเพิ่มเติม ได้แก่
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ตอบคำถามจากผู้ใช้งาน ว่าถ้าคลิป Reels มีโลโก้ของแบรนด์แปะอยู่ด้วย จะมีผลต่อยอดรีชหรือการเข้าถึงหรือไม่?
Mosseri บอกว่า "ไม่มี" หากลายน้ำหรือโลโก้แบรนด์ที่อยู่ในคลิปเป็นของผู้ใช้งาน แต่ถ้าโลโก้แสดงว่ามาจาก "แอปอื่น" กรณีนี้ Instagram จะพยายามลดรีชแนะนำหรือลดการถูกมองเห็น
ก่อนหน้านี้ Instagram เคยแนะนำแนวทางการลงโพสต์ Reels ว่าถ้าเป็นคอนเทนต์รีโพสต์มาจากแพลตฟอร์มอื่น จะถูกอัลกอริทึมลดการแสดงผลลง คำอธิบายนี้น่าจะแสดงความชัดเจนขึ้นว่า Instagram เน้นตรวจจับถ้ามีโลโก้แอปอื่นนั่นเอง
ที่มา: Social Media Today
กูเกิลอัพเดต Google Calendar เวอร์ชันเว็บเป็นธีม Material Design 3 หน้าตาดู "กลม" มากขึ้น ปรับมาใช้ฟอนต์เฉพาะของกูเกิลเอง และมีของใหม่คือรองรับ Dark Mode แล้ว สามารถกดสลับเองได้ หรือตั้งค่าให้เลือกตามค่าของระบบปฏิบัติการก็ได้
หน้าเว็บ Google Calendar เวอร์ชันใหม่ทยอยเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานแล้ว ทั้งบัญชีแบบองค์กรและบัญชีส่วนตัว (ลองกับบัญชีตัวเองก็ได้แล้ว)
ที่มา - Google Workspace
ปริศนาคาใจของเกม Final Fantasy VII ยาวนาน 27 ปี (เกมออกปี 1997) ถูกแก้ได้แล้ว เมื่อมีเกมเมอร์รายหนึ่งพบวิธีทำให้ Aerith ไม่ตายได้สำเร็จ
เกมเมอร์ที่ค้นพบช่องทางนี้เป็นผู้เล่นเกมแบบ speedrunner หาวิธีให้เกมจบเร็วที่สุด ชื่อว่า AceZephyr และ Kuma ค้นพบบั๊กของเกม FF7 ภาคต้นฉบับ ที่เปิดให้ผู้เล่นสามารถเดินจากเมืองแรก Midgar ไปยังเมือง Forgotten Capital ในทวีปอื่นได้ทันที (เดินตัดใต้ทะเล ข้ามภูเขาไปได้ดื้อๆ) ทำให้สามารถข้ามเนื้อเรื่องส่วนที่ Aerith ออกจากปาร์ตี้ไปได้ ส่งผลให้ Aerith ยังอยู่ในปาร์ตี้ได้ต่อไป แถมยังเห็นตัวเองโดน Sephiroth ฆ่าในคัตซีนได้ด้วย (คัตซีนเหมือนเดิม แต่ Aerith ยังอยู่ในปาร์ตี้)
เว็บเบราว์เซอร์ Vivaldi ออกเวอร์ชัน 7.0 ทิ้งช่วงห่างจากเวอร์ชัน 6.0 ประมาณครึ่งปี
การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ Vivaldi 7.0 คือหน้าตาใหม่หมด สังเกตได้ชัดจากแท็บแบบ "เกาะ" ลอยจากพื้นหลัง (floating tabs) ภาพรวมดีไซน์ดูกว้าง มีพื้นที่ระหว่างปุ่มมากขึ้น (ปรับค่าเป็น compact เองได้ถ้าต้องการ) วาดไอคอนปุ่มต่างๆ ใหม่ทั้งหมด
นอกจากหน้าตาใหม่แล้ว Vivaldi 7.0 ยังเพิ่มฟีเจอร์ Dashboard รวบรวมข้อมูลทุกอย่างของเบราว์เซอร์ลง widget จัดไว้ในหน้าเดียวกัน เช่น ปฏิทิน ตารางนัดหมาย โน้ตและงานที่จดไว้ รวมถึงข่าวจาก Feed Reader ด้วย widget ทั้งหมดสามารถจัดตำแหน่งได้ตามใจชอบ
ฟีเจอร์อื่นของเวอร์ชัน 7.0 คือ
Bluesky ประกาศว่าแพลตฟอร์มกำลังพัฒนาบริการ Subscription สำหรับผู้ใช้งาน แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นระบบซื้อติ๊กฟ้าเพิ่มการมองเห็น เพราะ Bluesky บอกว่าฟีเจอร์ที่ได้จะเป็น การอัปโหลดวิดีโอความละเอียดสูง, ปรับแต่งหน้าโปรไฟล์ได้มากขึ้น เป็นต้น การแสดงโพสต์ของผู้ใช้งานบนฟีดยังใช้รูปแบบเดิม ไม่มีการเพิ่มน้ำหนักการมองเห็นให้บัญชีที่เป็น Subscription
Bluesky ยังประกาศความก้าวหน้าของแพลตฟอร์มอีกหลายอย่างได้แก่
ประเด็นถกเถียงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Overwatch คงหนีไม่พ้นเรื่องเกมเพลย์แบบทีม 6v6 (ภาค 1) หรือ 5v5 (ภาค 2) ซึ่งความเห็นแยกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน
แม้ว่า Overwatch 2 ปรับรูปแบบเกมมาเป็น 5v5 ตามสมัยนิยม แต่ก็มีแฟนรุ่นเก่าๆ เรียกร้องให้กลับมาทำ 6v6 อยู่เสมอ จนเมื่อไม่นานมานี้ Aaron Keller ผู้กำกับเกมได้ออกมาเขียนโพสต์อธิบายเหตุผลที่ตัดสินใจทำ 5v5 ว่าช่วยให้เกมกระชับขึ้น คุณภาพของแมตช์ไม่แกว่งมากเท่า 6v6 แถมผู้ชมยังติดตามดูได้ง่ายกว่า เพราะจำนวนผู้เล่นในแมตช์น้อยกว่า แต่เขาก็บอกว่ายินดีกลับมาทดสอบเกมแบบ 6v6 ว่าจะได้ผลออกมาเป็นอย่างไร
Notion เปิดตัว Notion Mail อีเมลไคลเอนต์ ที่บอกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ Inbox ของอีเมลแบบเดิม มาทำให้อีเมลเข้ากับรูปแบบการทำงานที่ผู้ใช้งานต้องการ เช่น การจัดหมวดหมู่หัวข้อ, การแสดงวันที่สำคัญในอีเมล, AI ที่เตือนหรือตอบข้อความให้ และอื่น ๆ
Notion Mail เป็นการนำฟีเจอร์ของ Skiff แพลตฟอร์มจัดการเอกสารและอีเมล ที่ Notion ซื้อกิจการมาเมื่อต้นปี มารวมในแพลตฟอร์มของ Notion เอง
ในตอนนี้สถานะของ Notion Mail ยังเป็นพรีวิว คนที่สนใจสามารถลงชื่อใน waitlist ได้ ซึ่งจะเปิดตัวเป็นทางการต้นปี 2025 มีแอปแยกสำหรับ iOS, Android ในเบื้องต้นรองรับเฉพาะการเชื่อมต่อกับ Gmail เท่านั้น
Meta ปล่อยโมเดล Llama 3.2 รุ่นเล็ก ขนาดพารามิเตอร์ 1B และ 3B แบบลดขนาดโมเดลลงจากปกติ (quantized) ตั้งใจทำมาให้เล็กจนรันในอุปกรณ์พกพาได้ และเพิ่มความเร็วในการตอบคำถาม
ก่อนหน้านี้ Meta มี Llama 3.2 ขนาดพารามิเตอร์ 1B/3B อยู่แล้ว รอบนี้เป็นเวอร์ชันลดขนาดโมเดลลงได้อีก 56% (โมเดลรุ่น 1B ลดเหลือประมาณ GB จากขนาดเดิม 2.3GB) โดยยังคงคุณภาพและความปลอดภัยในระดับใกล้เคียงโมเดลต้นฉบับ ขนาดโมเดลที่ลดลงทำให้ลดหน่วยความจำที่ต้องใช้ลงได้ 41% และเพิ่มความเร็วได้ 2-4 เท่า
Meta จับมือกับผู้ผลิตชิปมือถือรายใหญ่ทั้ง MediaTek และ Qualcomm ให้รองรับโมเดลรุ่นนี้บนซีพียู Arm แล้ว และกำลังพัฒนาให้รองรับการใช้งานบน NPU ต่อไป
กูเกิลประกาศเพิ่มความโปร่งใสตามหลักการปัญญาประดิษฐ์ (AI Principles) ของบริษัท โดยบริการเก็บและแก้ไขรูปภาพ Google Photos จะเพิ่มบันทึกข้อมูล ถ้ารูปภาพนั้นถูกแก้ไขด้วย Google AI ภายในแอป Photos นั้น มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
รูปภาพกลุ่มที่ผ่านการแก้ไขด้วย Google AI เช่น Magic Editor, Magic Eraser และ Zoom Enhance ใน Google Photos ปัจจุบันถูกบันทึก metedata ตามมาตรฐาน IPTC อยู่แล้วว่ามีการใช้ Generative AI ช่วยแก้ไขภาพ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมในประกาศนี้คือการนำข้อมูลดังกล่าวมาแสดงใน Google Photos
Raspberry Pi เปิดตัวสินค้า AI ตัวใหม่ AI HAT+ เป็นชุดบอร์ดเสริมเหมือน AI Kit โดยมีตัวเลือกประสิทธิภาพสองระดับคือ 13 TOPS ได้ชิปเร่งความเร็ว AI Hailo-8L เท่ากับ AI Kit และ 26 TOPS ได้ชิป Hailo-8
สิ่งที่แตกต่างจาก AI Kit คือ AI HAT+ ใช้การเชื่อมต่อชิปเร่งความเร็วไปที่บอร์ดเลย ไม่ได้ผ่าน M.2 นอกจากทำให้จัดการง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยเรื่องการระบายความร้อนด้วย
AI HAT+ สามารถใช้งานร่วมกับ AI Kit ได้ โดยโมเดลทั่วไปที่รันบน Hailo-8L ได้ จะสามารถประมวลผลร่วมกับ Hailo-8 ได้เช่นกัน ยกเว้นโมเดลที่ออกแบบมาบน Hailo-8 โดยเฉพาะ
AI HAT+ 13 TOPS ราคา 70 ดอลลาร์ และรุ่น 26 TOPS ราคา 110 ดอลลาร์
ไม่ต้องลือกันอีกมากมายแล้ว เพราะ Greg Joswiak หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแอปเปิล โพสต์ข้อความใน X บอกว่าในสัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์ที่มีประกาศสินค้าใหม่กลุ่ม Mac โดยจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้เลย
ข้อมูลของ Greg สามารถตีความได้ว่า แอปเปิลน่าจะไม่จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าเต็มรูปแบบ แต่จะมาเป็นจดหมายข่าวแทน ซึ่งในสัปดาห์หน้าเช่นกัน แอปเปิลจะออกอัปเดตทั่วไป iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 ที่มี Apple Intelligence ให้ใช้งานด้วย
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ได้เดินทางไปที่ประเทศจีนในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเดินทางไปหลายสถานที่ รวมทั้งพบปะกับนักธุรกิจและตัวแทนของรัฐบาลจีน
ภาคธุรกิจที่ Cook ได้เดินทางไปมี China Mobile เพื่อหารือเรื่องการพัฒนาคอนเทนต์บนเครือข่าย 5G ซึ่งอาจรวมถึงการสร้างคอนเทนต์ Spatial สำหรับ Apple Vision Pro ด้วย และเขาได้เดินทางไปที่สำนักงานของ Sina Weibo ซึ่งที่นั่นเขาถูกถามว่า Apple Intelligence จะมีให้บริการในจีนเมื่อใด ซึ่ง Cook ก็บอกว่าอยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยแอปเปิลต้องการนำเสนอฟีเจอร์นี้กับผู้ใช้งานในจีนโดยเร็วที่สุด
Tim Cook ยังเข้าพบ Jin Zhuanglong รัฐมนตรีด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน โดย Jin เผยว่าแอปเปิลยังยืนยันแผนการลงทุนในจีนที่เพิ่มมากขึ้น
Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับของ GM รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 3 ปี 2024 โดยอยู่ในรายงานผลประกอบการของ GM ขาดทุนสุทธิ 435 ล้านดอลลาร์ จากรายได้ 26 ล้านดอลลาร์ เป็นตัวเลขขาดทุนที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ซึ่งขาดทุน 791 ล้านดอลลาร์
บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Sophos ประกาศบรรลุข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ Secureworks บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์อีกแห่ง ด้วยมูลค่า 859 ล้านดอลลาร์ โดยดีลนี้จ่ายเป็นเงินสดทั้งหมด
ปัจจุบัน Sophos มีบริษัทการลงทุนเทคโนโลยี Thoma Bravo เป็นเจ้าของ ส่วน Secureworks เป็นบริษัทในตลาดหุ้นซึ่งมี Dell Technologies เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ทั้ง Sophos และ Secureworks มีผลิตภัณฑ์เด่นด้านการตรวจจับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทางไซเบอร์ (Managed Detection and Response - MDR และ Extended Detection and Response - XDR) ทำให้การรวมกิจการของสองบริษัท เป็นการเพิ่มความสามารถจุดเด่นของผลิตภัณฑ์มากขึ้น
Asana เปิดตัว AI Studio เครื่องมือสร้างผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์แบบ No-code ที่สามารถจัดการเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติได้ตั้งแต่ เป็นแอดมินจัดการประชุม ไปจนถึงช่วยจัดการงานให้ฝ่ายขาย
Asana บอกว่า AI Studio ออกแบบมาให้ทุกคนทุกฝ่ายสามารถสร้างผู้ช่วย AI ของตนเองได้ จึงออกแบบเครื่องมือเป็น No-code รองรับงานของทุกฝ่ายตั้งแต่การตลาด ฝ่ายปฏิบัติการ ไปจนถึงฝ่ายไอทีหรือฝ่ายบุคคล ทำงานได้ในทุกขั้นของการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่ เริ่มต้น วางแผน ดำเนินการ และรายงานสรุป
ในช่วงแรก Asana AI Studio จะเปิดให้ทดสอบเฉพาะลูกค้า Enterprise และ Enterprise+ ก่อน
ที่มา: Asana
SK Hynix รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2024 โดยทำสถิติใหม่สูงสุดทุกบรรทัดอีกหนึ่งไตรมาส รายได้รวม 17.5731 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 94% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน, กำไรจากการดำเนินงาน 7.03 ล้านล้านวอน และกำไรสุทธิ 5.7534 ล้านล้านวอน ซึ่งดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน
SK Hynix บอกว่าความต้องการหน่วยความจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหน่วยความจำที่มีราคาขายสูงอย่าง HBM ซึ่งยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 330% จากปีก่อน รวมทั้งสินค้ากลุ่ม RAM และ NAND รุ่นพรีเมียมก็มีความต้องการเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้บริษัทประเมินแนวโน้มความต้องการสินค้ากลุ่มนี้ยังคงสูงต่อไปถึงปีหน้า ส่วนสินค้าสำหรับพีซีและสมาร์ทโฟนก็เติบโตเช่นกัน แต่ด้วยอัตราที่น้อยกว่ากลุ่มเซิร์ฟเวอร์ AI
วันนี้มีแต่ข่าวลือลดการผลิต มาถึงข่าวลือว่าเริ่มผลิตบ้างจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม เขารายงานว่าแอปเปิลจะเริ่มสายการผลิต MacBook Air ชิป M4 เร็ว ๆ นี้ โดยมีกำหนดเปิดตัวและขายช่วงต้นปีหน้า 2025
MacBook Air M4 ใช้ดีไซน์เดิม ตัวเลือกสองขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว รายละเอียดการเปลี่ยนส่วนใหญ่เป็นฮาร์ดแวร์ภายในเท่านั้น โดยจะเป็น Mac ที่ใช้ชิป M4 ที่มีออกมาถัดจาก MacBook Pro, iMac และ Mac mini ที่คาดว่าจะเปิดตัวในสัปดาห์หน้า
Google DeepMind เปิดซอร์สโค้ด SynthID Text ตัวช่วยสร้างลายน้ำเพื่อบอกว่าข้อความสร้างด้วย AI เพื่อนำไปใช้ตรวจสอบได้ในอนาคต
Google DeepMind มี SynthID สำหรับทำลายน้ำลงในภาพ AI อยู่ก่อนแล้ว กรณีของภาพ ทุกคนคงนึกออกว่าการแทรกลายน้ำที่แยกด้วยสายตามนุษย์ไม่เห็นคงทำได้ไม่ยากนัก เพราะในหนึ่งภาพมีปริมาณข้อมูลอยู่มาก การแทรกลายน้ำเพิ่มไปอีกหน่อยคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่เมื่อต้องใส่ลายน้ำลงในข้อความ text ล้วนๆ จะทำอย่างไร
SynthID Text ใช้หลักการว่า โมเดลภาษา LLM คือ "เครื่องพ่นคำ" คาดเดาคำถัดไปจากความน่าจะเป็น โดยคำหรือ token ที่มีค่าความน่าจะเป็นสูงสุดจะถูกคัดเลือกออกมาเป็นผลลัพธ์ให้ผู้ใช้เห็น
คนในแวดวง AI คงรู้จักบริษัท Hugging Face ในฐานะศูนย์รวมคลังโมเดลขนาดใหญ่ (มีโมเดลเกิน 1 ล้านตัวแล้ว) วิธีการหารายได้ของ Hugging Face ที่ผ่านมาคือการให้เช่าเซิร์ฟเวอร์สำหรับเทรน-ปรับแต่ง-รันโมเดลเหล่านี้ได้ทันที
คราวนี้ Hugging Face ขยายโมเดลธุรกิจของตัวเอง โดยนำซอฟต์แวร์ที่ใช้รันโมเดลข้างต้น เปิดให้ลูกค้าเช่าใช้งานซอฟต์แวร์นี้บนระบบไอทีของตัวเองได้ด้วย ใช้ชื่อว่า Hugging Face Generative AI Services หรือตัวย่อ HUGS
Adobe ผลักดันแอปวาดรูปบนอุปกรณ์พกพา Adobe Fresco มากขึ้น โดยประกาศว่า Fresco สามารถใช้งานได้ฟรีแบบเต็มรูปแบบสำหรับผู้ใช้งานทุกคน จากก่อนหน้านี้จำกัดความสามารถบางอย่าง เช่น รูปแบบพู่กัน หรือตัวเลือกฟอนต์ให้เฉพาะลูกค้าที่เสียเงิน
Fresco เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 รองรับบน iPad และ Windows ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีแอปบน Android ใช้โมเดลหาเงินแบบ Subscription รายปี 9.99 ดอลลาร์ เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมด แต่มีราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง Procreate ที่ใช้โมเดลขายขาด 12.99 ดอลลาร์