Automobile
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla Motors เคยบอกไว้หลายเดือนแล้วว่า Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ของบริษัทจะเปิดตัวในเดือนมีนาคม ขณะนี้ Tesla เริ่มส่งคำเชิญแขกเข้าร่วมงานแล้ว
งานเปิดตัวจะมีขึ้นวันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคมนี้ โดย Tesla คัดเลือกแขกเข้าร่วมงานเป็นรายคน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของรถ Tesla และคนในวงการ ในคำเชิญไม่ได้บอกสถานที่ที่แน่ชัด โดยบอกเพียงแค่ว่าอยู่ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย (แถวนั้นก็มีลอสแองเจลิสที่เป็นเมืองใหญ่) นอกจากนี้วันและเวลาก็ยังไม่บอกเช่นกัน
ใช่ว่าจะมีแต่ภาคธุรกิจที่ขมักเขม้นพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ งานวิจัยของสถาบันการศึกษาอย่าง Stanford ก็มีการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเช่นกัน ล่าสุดทีมวิจัยได้นำรถยนต์ไร้คนขับของพวกเขาไปวิ่งทดสอบในสนามแข่ง โดยเน้นทดสอบระบบควบคุมรถในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง
Rimac Automobili บริษัทรถยนต์หน้าใหม่จากประเทศโครเอเชีย เปิดตัวรถยนต์ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าล้วนถึงสองรุ่นพร้อมกัน คือ Concept One และ Concept S ที่งาน Geneva Motor Show ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ไร้คนขับของ Google ชนเข้ากับรถประจำทางคันหนึ่งในมลรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา จุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่ของ Google
รถของ Google ขับมาด้วยความเร็ว 3 กม./ชม. พยายามวิ่งเข้ามาในเลนและชนเข้ากลางคันรถประจำทางที่กำลังวิ่งอยู่ในเลน วิศวกรที่นั่งควบคุมรถของ Google กล่าวว่าเขาคิดว่ารถประจำทางที่วิ่งมาด้วยความเร็ว 24 กม./ชม. จะชะลอรถ เพื่อให้รถของ Google วิ่งแทรกเข้ามาในเลนได้ เขาจึงไม่ได้แทรกแซงระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเองของรถ เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวรถยนต์จากค่าย GM โดนแฮ็กมาแล้ว (อ่านได้จากบทความ มหากาพย์ GM กับการแก้ปัญหารถยนต์ถูกแฮกผ่านระบบ OnStar ที่ดำเนินมาเกือบ 5 ปี) คราวนี้มาดูรถญี่ปุ่นถูกแฮ็กกันบ้าง
นักวิจัยด้านความปลอดภัยสองคนค้นพบช่องโหว่ในรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf โดยเป็นการแฮ็กผ่าน API ของแอพใน iOS และ Android ส่งผลให้ใครก็ตามที่รู้เลขตัวถังรถยนต์ (VIN) สามารถเรียกดูข้อมูลต่างๆ ของรถคันนั้นได้ทันที ซึ่งเลขตัวถังก็โชว์หราอยู่หน้ากระจกเลยทีเดียว
ระหว่างรอเปิดตัว Galaxy S7 คืนนี้ ซัมซุงชิงออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่คือ Samsung Connect Auto มันเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับเสียบพอร์ต OBD II ของรถยนต์ (มักอยู่แถวๆ ใต้พวงมาลัย) เพื่อเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE แล้วกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ผู้โดยสารในรถ
นอกจากนี้ Samsung Connect Auto ยังเก็บสถิติการขับขี่ (ลักษณะเดียวกับ Drivebot) และแจ้งเตือนพฤติกรรม-ความปลอดภัยได้แบบเรียลไทม์ เก็บสถิติการสิ้นเปลืองน้ำมัน แจ้งเตือนการซ่อมบำรุง และตามหารถหาย (Find My Car) ได้ด้วย
ตัวระบบปฏิบัติการข้างใต้เป็น Tizen และรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ผ่าน Samsung Knox ในอนาคตจะเปิดให้เชื่อมต่อบริการอื่นๆ ผ่าน Tizen SDK
Volvo กำลังวางแผนยุติการใช้ 'กุญแจรถ' ด้วย 'ดิจิทัลคีย์' ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือด้วยบลูทูธ
ขณะนี้มีผู้ผลิตรถยนต์รายหลายให้บริการสั่งล็อก ปลดล็อก หรือสตาร์ทรถ ผ่านแอปพลิเคชันในรูปแบบบอกรับสมาชิก แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของความล่าช้าของคำสั่ง และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อสั่งงาน
แอปจะเชื่อมต่อกับตัวรถอัตโนมัติเมื่อเจ้าของเดินเข้าใกล้รถยนต์ ในลักษณะเดียวกับอุปกรณ์บลูทูธทั่วไป ระบบจะตรวจสอบดิจิทัลคีย์ หากถูกต้องจะเข้าถึงการทำงานต่าง ๆ ของรถได้เช่นเดียวกับกุญแจรถทั่วไป
Nissan ปล่อยคลิปโชว์เก้าอี้แสนฉลาด Intelligent Parking Chair ที่สามารถวิ่งกลับไปประจำตำแหน่งเดิมของมันได้เองเมื่อผู้ใช้ปรบมือ งานนี้เป็นการโปรโมตเทคโนโลยีระบบช่วยจอดรถยนต์แบบอัตโนมัติหนึ่งในฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกของรถยนต์ Nissan
Toyota เปิดตัวรถยนต์ Prius รุ่นใหม่ของปี 2017 ที่เพิ่มเฉดสีใหม่สดใสแบบสีเขียวมะนาว พร้อมด้วยเทคโนโลยีสีเคลือบแบบพิเศษที่ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดด ทำให้ระบบปรับอากาศรถยนต์ทำงานน้อยลงช่วยประหยัดการใช้พลังงานของรถ
ในสภาวะที่เครื่องปรับอากาศของรถทำงานเต็มที่ยามอากาศร้อน นั่นอาจส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานหรือก็คือการเผาผลาญเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 5-25 ดังนั้นการพัฒนารถให้ลดภาระของระบบปรับอากาศจึงเท่ากับลดการใช้เชื้อเพลิงด้วยเช่นกัน
เท้าความก่อนว่าทาง Google ได้ส่งจดหมายไปยังหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NHTSA) เพื่อยื่นข้อเสนอต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไร้คนขับ โดยหนึ่งในนั้นทาง NHTSA ได้ตอบกลับไปแล้วว่า ยอมรับระบบไร้คนขับของ Google ในฐานะผู้ขับขี่รถยนต์
ประเด็นด้านกฎหมาย เป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของการนำรถไร้คนขับมาวิ่งบนถนนจริงมาตลอด แต่ล่าสุดอาจเรียกได้ว่า ระบบไร้คนขับ (Self-Driving System) ของ Google ได้ใบขับขี่แล้วก็ได้ เมื่อหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (the National Highway Traffic Safety Administration - NHTSA) ประกาศยอมรับระบบไร้คนขับของ Google ในฐานะผู้ขับขี่เทียบเท่ากับมนุษย์ และสามารถควบคุมรถยนต์ได้จริงแล้ว
NHTSA ส่งจดหมายถึง Google ยอมรับการเปลี่ยนแปลงและพลวัตของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีบนรถ พร้อมระบุว่าหากบนรถไม่มีคนที่สามารถควบคุมรถได้ การที่คอมพิวเตอร์จะควบคุมรถแทนก็พอจะมีเหตุผลและยอมรับได้
ทางการเนเธอร์แลนด์พัฒนารถมินิบัสขนาดโดยสาร 6 คน เริ่มให้การทดสอบเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และเตรียมให้บริการจริงเต็มรูปแบบในช่วงกลางปีนี้
รถมินิบัสไร้คนขับนี้ถูกตั้งชื่อว่า "WEpod" โดยในระหว่างนี้ WEpod จำนวน 2 คันกำลังอยู่ในระหว่างทดสอบให้บริการในเขตของ Wageningen University และเมื่อขยายบริการเต็มรูปแบบ มันก็จะยาวออกไปนอกมหาวิทยาลัย Wageningen University ไปจนถึงสถานีรถไฟ Ede-Wageningen
หลังมีข่าวหลุดและข่าวลือออกมามากมายเกี่ยวกับโครงการ Project Titan ซึ่งเป็นโครงการพัฒนารถยนต์ของแอปเปิล (คนละโครงการกับของกูเกิล แค่ชื่อซ้ำกัน) ที่บ้างก็ว่าเป็นแค่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า บ้างก็ว่ามีระบบไร้คนขับด้วย จนกระทั่ง Wall Street Journal เคยรายงานว่าจะถูกเปิดตัวในช่วงปี 2019
วันนี้ดูเหมือน Project Titan ของแอปเปิลจะเจอกับอุปสรรคและปัญหาภายในเล็กน้อย (หรือไม่เล็ก?) เมื่อ Wall Street Journal รายงานว่า Steve Zadesky หัวหน้าทีมพัฒนาประกาศลาออกจากบริษัทด้วยเหตุผลส่วนตัว
หลังจาก Sidecar บริการเรียกรถคู่แข่งของ Uber/Lyft ประกาศปิดตัว ล่าสุดค่ายรถยักษ์ใหญ่ General Motors (GM) เข้าไปซื้อทรัพย์สินที่เหลืออยู่และเทคโนโลยีของ Sidecar รวมถึงจ้างพนักงานอีก 20 คนทำงานต่อด้วย
GM เพิ่งลงทุนใน Lyft ไปถึง 500 ล้านดอลลาร์ ท่าทีของ GM แสดงให้เห็นชัดเจนว่าต้องการลงมาลุยตลาดการเรียกรถยนต์ด้วย (บริษัทรถยนต์ในสหรัฐมีประวัติการเป็นเจ้าของบริษัทรถเช่ามายาวนาน) แหล่งข่าวของ Bloomberg อ้างข้อมูลวงในว่าโครงการนี้ของ GM ใช้ชื่อว่า "Maven" และเพิ่งจดเครื่องหมายการค้าไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
ในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาของ Barack Obama ได้ประกาศงบลงทุนก้อนใหญ่เพื่ออนาคตของการขนส่งด้วยการเตรียมสนับสนุนในเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับเป็นเงินหลายพันล้านเหรียญตลอดระยะเวลา 10 ปี
Obama บอกว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต และจะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำหรับการเปลี่ยนผ่านการใช้งานพลังงานฟอสซิล โดยจะมุ่งเป้าไปที่งานวิจัยเพื่อพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่ปลอดภัย และใช้งานได้จริง คาดว่าจะเป็นเงินรวมสูงถึง 4 พันล้านเหรียญ แต่ยังไม่ยืนยันจนกว่าจะถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้
หนึ่งในอุปสรรคสำคัญของการขับรถ คงหนีไม่พ้นสภาพอากาศที่เลวร้าย อย่างพายุฝนหรือพายุหิมะ ซึ่งการควบคุมรถยนต์ท่ามกลางสภาพอากาศเช่นนี้ แม้แต่นักขับที่เชี่ยวชาญ ก็อาจจะเป็นเรื่องยากและเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ Ford จึงพยายามพัฒนาให้รถยนต์ไร้คนขับของตัวเองคุ้นเคยกับสภาพอากาศที่ผิดปกติเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด
การทดสอบรถไร้คนขับท่ามกลางพายุหิมะของ Ford ครั้งนี้ ต้องอาศัยเซ็นเซอร์ LIDAR เป็นหลัก เนื่องจากมีความแม่นยำในการตรวจจับวัตถุรอบตัวรถมากกว่ากล้องที่อาจถูกบดบังทัศวิสัยจากสภาพอากาศ โดยเป้าหมายของ Ford คือต้องการให้ระบบไร้คนขับสามารถควบคุมรถ ในสภาพอากาศที่เลวร้ายได้เหมือนกับนักขับมืออาชีพให้มากที่สุด
ต่อเนื่องจากข่าว Tesla ออกซอฟต์แวร์อัพเดต 7.1 Elon Musk ซีอีโอของ Tesla Motors ได้ทวีตเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นกันบ่อยๆ จากภาพยนตร์สายลับหลายเรื่อง
เขาพูดถึงฟีเจอร์ Summon หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "เรียกมา" ที่ขณะนี้สามารถสั่งให้รถยนต์เข้าและออกจากโรงจอดเองได้ ว่าภายใน 2 ปี เจ้าของรถจะสามารถเรียกรถให้ขับมาหาจากที่ไหนก็ได้ เช่นรถอยู่ที่นครนิวยอร์ก แต่เจ้าของอยู่ลอสแองเจลิส (ห่างกันราว 4,500 ก.ม.) ก็เรียกให้รถขับมาหาเองได้
Bill Ford Jr. ประธานบอร์ดของบริษัทรถยนต์ Ford (และเหลนของ Henry Ford ผู้ก่อตั้งบริษัท) ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ถึงความจำเป็นของ Ford ในการปฏิวัติตัวเองใหม่ (reinvent this company) เพื่อตอบโจทย์ของผู้ใช้รถยนต์ในอีก 50 ปีข้างหน้า
แนวทางของ Ford มีทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ไร้คนขับ และบริการแชร์รถยนต์ (car-sharing ลักษณะเดียวกับ Uber/Lyft) เป้าหมายระยะยาวของบริษัทคือเปลี่ยนตัวเองเป็นบริษัทเทคโนโลยี สร้างรถยนต์รุ่นใหม่ที่ฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แทนการเป็นบริษัทประกอบรถยนต์ที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีของผู้อื่น
GM ยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์สหรัฐ จับมือ Mobileye บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับสัญชาติอิสราเอล ในการจัดทำฐานข้อมูลกลางเพื่อเก็บข้อมูลถนนสำหรับรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต โดยให้รถยนต์ของ GM ที่ติดตั้งกล้องหน้าและรองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE อัพโหลดภาพรายละเอียดบนถนน อาทิ สัญญาณไฟจราจร ป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ ไปยังฐานข้อมูลกลาง ฐานข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบของรถยนต์ไร้คนขับ อาทิ เมื่อไม่สามารถอ่านป้ายได้ชัดเจน เป็นต้น
Mobileye กล่าวว่า ระบบ Road Experience Management ของบริษัทสามารถประมวลผลข้อมูลถนนโดยใช้ข้อมูลเพียง 10 กิโลไบต์ ต่อระยะทางหนึ่งกิโลเมตร ซึ่งช่วยลดโหลดของการอัพโหลดข้อมูลสู่ระบบกลาง และให้ข้อมูล ณ สถานที่ในความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 10 ซม. ซึ่งแม่นยำกว่า GPS เสียอีก
ที่ผ่านมาเราเห็นข่าวบริษัทไอทีตั้งรางวัลให้กับผู้ค้นพบช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ของตัวเองอยู่เรื่อยๆ (ตัวอย่างโครงการ Vulnerability Reward Program ของกูเกิล แต่ในยุคที่รถยนต์ก็มีซอฟต์แวร์จำนวนมาก ทำให้เราเริ่มเห็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เริ่มทำแบบเดียวกันบ้าง
General Motors หรือ GM ยักษ์ใหญ่ของวงการรถยนต์สหรัฐ ประกาศจับมือกับ HackerOne ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการค้นหาช่องโหว่ เพื่อสร้างพอร์ทัลสำหรับสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยภายนอกบริษัท
GM ระบุว่าไม่มีสายสัมพันธ์กับโลกความปลอดภัยมากนัก การจับมือกับ HackerOne ที่มีเครือข่ายกว้างขวางอยู่แล้ว ย่อมทำให้เริ่มต้นกับวงการนี้ได้ง่ายขึ้น
เกิดเรื่องขึ้นเล็กๆ น้อยๆ กลางงาน CES 2016 ที่ผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้าร่วมงาน ไม่สามารถโชว์ศักยภาพของระบบคอนโซลตัวใหม่ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ Volkswagen ที่มีการโชว์ Keynote ว่าระบบคอนโซลใหม่จะรองรับ CarPlay แบบไร้สายไปก่อนด้วย แต่พอถึงงานจริงกลับไม่มีการโชว์ในส่วนนั้นออกมาแม้แต่น้อย เลยเกิดความสงสัยว่าต้องมีบุคคลหนึ่งอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน
จากความสงสัยเว็บไซต์ Car and Driver จึงได้สอบถามกับ Volkmar Tannerberger หัวหน้าฝ่ายพัฒนาระบบไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ของ Volkswagen และได้คำตอบที่ชัดเจนว่า ใจจริงแล้ว Volkswagen อยากโชว์ CarPlay มากๆ แต่ "เจ้าของ CarPlay" (แอปเปิล) สั่งไม่ให้ทำแบบนั้น เลยทำให้การแสดงถึง CarPlay ต้องถูกดึงออกจากของจริงทั้งหมด
Tesla Motors ยังคงออกอัพเดตเพิ่มฟีเจอร์ให้รถยนต์ของตนอย่างต่อเนื่อง หลังจากครั้งสุดท้ายปล่อยอัพเดตใหญ่ 7.0 ไปเมื่อเดือนตุลาคม โดยอัพเดตครั้งนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์เข้าและออกจากโรงจอดรถอัตโนมัติ รวมถึงปรับปรุงและจำกัดการใช้งาน Autopilot บางส่วน
สำหรับฟีเจอร์การเข้าและออกจากโรงจอดรถอัตโนมัติ หรือที่ Tesla เรียกว่า Summon สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้เวลาต้องการเข้าออกโรงจอดที่แคบและอาจขึ้นลงจากรถไม่สะดวก วิธีการใช้งานคือให้จอดรถให้ตรงกับประตูโรงรถ จากนั้นให้กดปุ่มกลางของกุญแจรถ ไฟฉุกเฉินจะกะพริบ สุดท้ายให้กดปุ่มเปิดกระโปรงหน้าเพื่อบังคับให้รถเดินหน้าเข้าโรงรถ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถเปิดและปิดประตูโรงรถได้เองด้วย โดยประตูโรงรถต้องรองรับระบบ HomeLink ด้วย
ไมโครซอฟท์ร่วมกับ IAV บริษัทรับพัฒนาสินค้าให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ พัฒนาระบบ Connected Highly Automated Driving (CHAD) ที่เชื่อมต่อระหว่างรถไร้คนขับกับอุปกรณ์อื่นโดยรอบ อาทิ สมาร์ทโฟน หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ตามแนวทางการสื่อสารแบบ Vehicle-2-X (V2X) และใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุกับรถยนต์คันอื่นหรือคนเดินถนนและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง
ค่ายรถ Ford มีระบบเชื่อมต่อแอพมือถือกับรถยนต์ชื่อ AppLink โดยบริษัทเปิดซอร์สโค้ดของ AppLink เป็นโครงการโอเพนซอร์สชื่อ SmartDeviceLink และอยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มพันธมิตร GENIVI Alliance ร่วมกับ Linux Foundation
ล่าสุดความพยายามของ Ford ในการผลักดัน SmartDeviceLink ให้เป็นมาตรฐานของวงการรถยนต์ดูจะคืบหน้าไปพอสมควร เพราะตอนนี้ได้ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota และ QNX Software มาเป็นพันธมิตรร่วมใช้งานแล้ว รวมถึงค่ายรถอื่นๆ คือ PSA Peugeot Citroën, Honda, Subaru, Mazda ก็เริ่มศึกษาเพื่อพิจารณาใช้งานด้วย