Automobile
Tesla Motors เพิ่งปล่อยซอฟต์แวร์อัพเดตเวอร์ชัน 7 ให้กับรถยนต์ Tesla Model S เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการอัพเดตครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งเพิ่มฟีเจอร์ Autopilot เข้ามา ให้รถยนต์ใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่มีและขับเองได้ (ขณะนี้มีวิดีโอสาธิตฟีเจอร์นี้มากมายบนยูทูบ หากสนใจลองค้นว่า Tesla Autopilot ดูได้)
ถึงแม้ทางนิตยสาร Consumer Reports จะให้คะแนนสมรรถนะของ Tesla Model S รุ่นใหม่ไปแบบทะลุชาร์ทก็ตาม แต่ Model S กลับสอบตกในเรื่องความน่าเชื่อถือของตัวรถ
กล่าวคือทาง Consumer Reports ไม่กล้ารับประกันได้ว่าตัว Tesla Model S จะไม่มีปัญหาในส่วนต่างๆ ภายในระยะเวลา 2 ปีแรกหลังการซื้อ โดยทางนิตยสารได้สำรวจความเห็นของผู้ใช้รุ่น Model S กว่า 1,400 คนที่ส่วนใหญ่บ่นไปในทางเดียวกันว่า Model S ส่วนใหญ่มักมีปัญหาที่ระบบขับเคลื่อนและส่งกำลัง (Drivetrain) อุปกรณ์ที่จ่ายไฟ (Power Equipment) อุปกรณ์ชาร์จไฟ (Charging Equipment) หลังคาซันรูฟที่มักส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด เสียงแปลกๆ ภายในตัวรถ (rattles) และการรั่วตามจุดต่างๆ
ประเด็นเรื่องความไว้วางใจต่อเครื่องจักร โดยเฉพาะเรื่องของรถยนต์ไร้คนขับ กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งเมื่อ David Mindell ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ว่าด้วยวิศวกรรมศาสตร์ที่ MIT ได้แสดงความเห็นไว้ว่า การปล่อยให้รถยนต์มีอิสระในการควบคุมตัวเองได้นั้น เป็นความคิดในสมัยศตวรรษที่ 20
เนื่องจากตัวอาจารย์นั้นไม่เห็นด้วยกับการที่ระบบคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์เป็นตัวควบคุมรถไร้คนขับโดยสมบูรณ์ Mindell บอกว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ใดๆ จะยืนยันได้ว่าระบบไร้คนขับโดยสมบูรณ์จะช่วยให้โชคชะตาของมนุษย์ดีขึ้นจริงๆ (ลดอุบัติเหตุ ความสูญเสีย ฯลฯ)
กระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ เปิดตัวโครงการ “ระบบขนส่งสาธารณะแห่งอนาคต” โดยการนำรถยนต์ไร้คนขับมาทดลองวิ่งเป็นครั้งแรก
รถยนต์ต้นแบบที่ถูกนำมาทดลองวิ่งนั้น เป็นรถที่ผลิตโดยบริษัทมิตซูบิชิของญี่ปุ่น ที่สามารถเคลื่อนที่ได้สูงสุด 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กับสถาบันวิจัยและเทคโนโลยีของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT ที่เล็งเห็นว่าสิงคโปร์ เป็นประเทศที่ขาดแคลนแรงงานในตำแหน่งพนักงานขับรถ ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลแก้ไม่ตกตลอดมา
ทางการสิงคโปร์ตั้งเป้าจะพัฒนารถไร้คนขับ ให้เป็นรถขนส่งสาธารณะเช่นรถเมล์และแท็กซี่ รวมไปถึงรถเก็บกวาดถนนด้วยเช่นกัน
Elon Musk ประกาศทาง Twitter ของเขาว่าซอฟต์แวร์รุ่นที่ 7 สำหรับรถรุ่น Tesla S จะปล่อยสู่สาธารณะในวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคมนี้
ซอฟต์แวร์รุ่นที่ 7 จะเพิ่มความสามารถขับรถแบบ Autopilot แต่ว่าเป็นระบบอัตโนมัติเพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ใช่ระบบขับรถอัตโนมัติทั้งคันแบบสมบูรณ์เสียทีเดียว คุณสมบัติที่สามารถทำได้ คือ จอดรถเข้าช่องคู่ขนาน (parallel parking) อัตโนมัติ, เปลี่ยนเลนอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยว เป็นต้น
ตัวระบบ Autopilot ของ Tesla เริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่ง Elon Musk กล่าวว่า รถของ Tesla รุ่นปัจจุบันทุกคันติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ที่จำเป็นสำหรับการขับรถแบบอัตโนมัติ แต่ยังมีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีที่ยังไม่พร้อมใช้กับการจราจรที่ซับช้อนอย่างเช่นการขับรถในเมืองได้
เคยมีข่าวตั้งแต่ต้นปีเกี่ยวกับการแย่งชิงพนักงาน ระหว่างแอปเปิลกับ Tesla และ Elon Musk ซีอีโอ Tesla Motors ก็บอกว่าถ้าแอปเปิลจะทำรถยนต์จริงก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ดูเหมือนตอนนี้ Musk จะไม่มองแบบนั้นแล้ว
โดยเขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมัน พูดถึงประเด็นแอปเปิลชิงตัวพนักงานไปจาก Tesla ว่า แอปเปิลได้ไปแต่วิศวกรที่ Tesla ไล่ออกไปแล้วเท่านั้น ซึ่งคนใน Tesla ยังมีมุกตลกเรียกแอปเปิลว่าเป็นสุสานของ Tesla
ขณะที่บริษัทรถหรือแม้แต่บริษัทไอทีทางฝั่งตะวันตกหลายเจ้า ต่างประกาศว่ากำลังพัฒนารถไร้คนขับอยู่ในขณะนี้ โตโยต้า บริษัทรถยนต์ชื่อดังแดนปลาดิบได้เผยโฉมฟีเจอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (semi-autonomous) ในรถยนต์แทน โดยจะทำงานก็ต่อเมื่อขับอยู่บนทางหลวงหรือทางด่วนเท่านั้น
ฟีเจอร์นี้มีชื่อว่า Highway Teammate ซึ่งโตโยต้าได้โชว์ในงาน Tokyo's Shuto Expressway บนรถ Lexus GS โดยตัวรถจะขับเคลื่อนตัวเองเมื่อเข้าสู่ทางหลวง โดยใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ รอบตัวรถ ร่วมกับซอฟต์แวร์ที่คอยประมวลผลการจราจร ตัดสินใจในการขับเคลื่อน รวมไปถึงแผนที่
โตโยต้าระบุว่ากำลังเร่งการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับ โดยตั้งเป้าว่าจะออกรถรุ่นใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Highway Teammate นี้ประมาณปี 2020
Mercedes-Benz เคยโชว์รถบรรทุกไร้คนขับรุ่นแรกที่มีแผนลงถนนจริงมาตั้งแต่กลางปี 2014 ทิ้งช่วงไปได้ปีกว่า วันนี้ก็ออกมาประกาศว่ารถบรรทุกไร้คนขับรุ่นที่ว่าได้ลงทดสอบขับในสนามจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รถบรรทุกไร้คนขับที่ว่าปรับแต่งมาจากรุ่น Mercedes-Benz Actros รถบรรทุกมาตรฐานที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1995 แต่เพิ่มเติมเซ็นเซอร์ และกล้องเข้ามาทำงานร่วมกับระบบ Highway Pilot ได้ทดสอบขับจริงบนทางหลวงพิเศษ A8 เป็นระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร แม้จะยังมีคนขับนั่งอยู่ แต่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเป็นฝ่ายควบคุมพวงมาลัยตลอดเส้นทาง
ในขณะที่รถยนต์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ในภาพรวมนั้นยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่ล่าสุด GM ออกมาเปิดเผยว่าจำนวนรถยนต์ในเครือของตนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้นั้นครบ 1 ล้านคันแล้ว
GM นั้นมีบริการชื่อ OnStar ซึ่งเป็นบริการสำหรับรถยนต์ในค่ายตนเองมา 20 ปีแล้ว โดยมีฟีเจอร์หลากหลายมาก เช่นการแจ้งเตือนต่างๆ เกี่ยวกับตัวรถ, การนำทาง และบริการฉุกเฉินต่างๆ รวมถึงความบันเทิงภายในห้องโดยสาร โดยบริการนี้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 4G LTE
Mary Barra ซีอีโอหญิงของ GM บอกว่า “ลองจินตนาการดูว่าเราสามารถเก็บข้อมูลจากรถของเรา แล้วโอนถ่ายไปยังรถอีกคันได้ทันที เวลาที่เราไปเช่ารถขับที่อื่น เช่นอุณหภูมิแอร์, ตำแหน่งเบาะ, ข้อมูลการนำทาง”
เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดียมีภารกิจมาทัวร์ซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งเป็นการมาเยือนลักษณะนี้ครั้งแรกในรอบกว่า 3 ทศวรรษ โดยในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา เขาและคณะได้ไปเยี่ยมชมโรงงานของ Tesla Motors ด้วย
หลังจากที่หน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ ออกมาเผยว่า Volkswagen มีซอฟต์แวร์ที่โกงผลการทดสอบการตรวจจับค่ามลพิษ ล่าสุด Audi และ Skoda ผู้ผลิตรถยนต์ในเครือ Volkswagen Group ออกมาเปิดเผยว่ามีซอฟต์แวร์แบบเดียวกันอยู่ในรถของตัวเองด้วย
Audi ระบุว่ามีรถยนต์ของตัวเองกว่า 2.1 ล้านคันทั่วยุโรปและสหรัฐที่มีซอฟต์แวร์แบบเดียวกับของ Volkswagen ซึ่งสามารถโกงการตรวจวัดปริมาณมลพิษจากไอเสียเครื่องยนต์ดีเซล โดยรุ่นที่มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้แก่รุ่น A1, A3, A4, A5, A6, TT, Q3 และ Q5 ขณะที่ Skoda เปิดเผยเพียงว่ามีรถยนต์ของตนทั้งหมด 1.2 ล้านคันที่มีซอฟต์แวร์ดังกล่าว
ระยะทางที่รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนั้นเป็นประเด็นใหญ่ของวงการรถยนต์ไฟฟ้ามาตลอด มันเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคใช้ตัดสินใจว่าจะซื้อใช้ดีหรือไม่ โดยสถิติที่ผู้ใช้ Tesla Model S ขับไปได้คือราว 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ล่าสุด Elon Musk ซีอีโอของ Tesla Motors ได้ให้สัมภาษณ์กับ Børsen หนังสือพิมพ์ของเดนมาร์กเกี่ยวกับประเด็นนี้
เขากล่าวว่า "เราจะทำให้รถยนต์ของเราวิ่งได้ถึง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งภายในหนึ่งถึงสองปีต่อจากนี้ หรือที่แน่ๆ คือภายในปี 2017" และเขายังเสริมว่าภายในปี 2020 จะทำได้ถึง 1,200 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ข่าวเก่าไปนิดนึงนะครับ หลังจากที่ Elon Musk ทวิตข้อมูลเบื้องต้นของ Tesla Model X รถยนต์ไฟฟ้าแบบ crossover ที่มาพร้อมประตูแบบ falcon doors อันเป็นเอกลักษณ์ ล่าสุด Tesla ได้ร่อนบัตรเชิญผู้สื่อข่าวเข้าร่วมงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะจัดงานที่โรงงานของ Tesla ณ เมือง Fremont ในค่ำวันอังคารที่ 29 กันยายนนี้
มีการคาดการณ์ไว้ว่า Tesla จะเปิดเผยราคาและรายละเอียดออปชันต่างๆ ในงาน และก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญผู้ถือหุ้นเข้ามาดู Model X รุ่น Signature อย่างลับๆ แล้วด้วย โดยเป็นรุ่นย่อยไฮเอนด์ที่ใส่ออปชันมาเต็มและราคาแพงมาก
เราคงได้ยินข่าวรถยนต์จากค่าย GM (General Motors) ถูกแฮกกันมาบ้างนะครับ แต่อาจไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ เนื่องจากบ้านเราไม่ค่อยนิยมรถยนต์จากค่ายนี้สักเท่าไร อีกทั้งบริการที่มีปัญหาช่องโหว่ก็ไม่มีใช้ในประเทศไทย
แต่เอาเข้าจริงแล้วเป็นเรื่องใหญ่มาก กระทบคนเยอะมาก อีกทั้งยังไม่เคยพบเจอว่ามีการแฮกรถยนต์ได้ด้วย
Chevrolet ประกาศอัพเดตซอฟแวร์ระบบอินโฟเทนเมนต์ให้กับรถยนต์รุ่นปี 2016 จำนวน 14 รุ่นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรถยนต์จำเป็นต้องรองรับฟีเจอร์ Android Auto ผ่านระบบ MyLink ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 8 นิ้ว และ 7 นิ้ว โดยเจ้าของรถยนต์สามารถเข้ารับการอัพเดตผ่านตัวแทนจำหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2016 เป็นต้นไป
การอัพเดตฟีเจอร์เพิ่มเติมผ่านซอฟต์แวร์ยังเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเจ้าของรถยนต์ที่มีอุปกรณ์รองรับอยู่แล้วที่จะได้ใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ติดรถยนต์ และมีความเป็นไปได้สูงว่าเจ้าของรถยนต์รุ่นที่รองรับจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ Apple CarPlay จากการอัพเดตลักษณะนี้เช่นกัน
คล้อยหลังเหตุฉาวที่ Volkswagen โกงผลทดสอบมลพิษมาเพียงวันเดียว ความเสียหายต่อบริษัทเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างมากแล้ว
เริ่มด้วยราคาหุ้นของ Volkswagen ที่ตลาดหุ้นเยอรมนีกันก่อน (Deutsche Börse) เมื่อเปิดตลาดในวันจันทร์ ราคาหุ้นของ Volkswagen AG ร่วงลงกว่า 20% (Bloomberg รายงานว่ามากถึง 23%) เหลือต่ำสุดที่ 125.40 ยูโรต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าบริษัทหายไปราว 15,600,000,000 ยูโรเลยทีเดียว (ประมาณ 628,205,760,000 บาท) โดยในรอบปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Volkswagen AG เคยขึ้นสูงสุดถึง 250 ยูโรต่อหุ้นเมื่อเดือนมีนาคม
มีข่าวลือเกี่ยวข้องกับรถยนต์มาหลายครั้ง วันนี้สำนักข่าว Wall Street Journal ออกมารายงานว่าแอปเปิลมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์ของตัวเองอยู่ โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้จริงในปี 2019
จากแหล่งข่าวที่ WSJ อ้างอิง ระบุว่ารถยนต์คันแรกของแอปเปิลจะไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างที่กูเกิลพยายามอยู่ แต่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีข่าวว่ากำลังซุ่มพัฒนาเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยทีมพัฒนาตอนนี้เพิ่มจำนวนพนักงานจากเดิมถึง 3 เท่าตัว จากเดิมกว่า 600 คนที่ร่วมพัฒนากันอยู่ในทีม Project Titan (อย่าสับสนกับของกูเกิล)
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสั่งให้ Volkswagen ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีเรียกคืน (recall) รถยนต์เกือบห้าแสนคันหลังตรวจพบว่าในรถมีการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่โกงผลการปล่อยมลพิษ
หน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (The Environmental Protection Agency - EPA) กล่าวหา Volkswagen ว่าบริษัทได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จะลดอัตราการปล่อยก๊าซกลุ่มไนโตรเจนออกไซด์จากรถยนต์ ซึ่งก็เหมือนจะดูดี หากแต่ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะทำงานก็ต่อเมื่อรถยนต์กำลังถูกทดสอบการปล่อยไอเสียเท่านั้น (เช่นในแล็บหรือตอนไปจ่ายภาษีประจำปี) โดยในการขับขี่ปกติรถจะปล่อยมลพิษออกมามากกว่าค่าที่วัดได้จากการทดสอบถึง 40 เท่า
หลังจากที่เคยมีข่าวลือว่าแอปเปิลสนใจเรื่องรถไร้คนขับ ล่าสุดมีข่าวลือว่าทางแอปเปิลได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของกรมยานยนต์ (Department of Motor Vehicle) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งพอจะช่วยตอกย้ำข่าวลือข้างต้นได้มากขึ้น
The Guardian รายงานว่าตัวแทนด้านกฎหมายของแอปเปิล เข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านรถไร้คนขับของกรมยานยนต์ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ที่ดูแลและรับผิดชอบประเด็นด้านกฎหมายเกี่ยวกับรถไร้คนขับ จึงคาดเดาว่าประเด็นเรื่องรถไร้คนขับของแอปเปิลน่าจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ
ปล่อยให้คู่แข่งทั้งแอปเปิล และกูเกิลลงสนามผู้ช่วยอัจฉริยะบนรถยนต์ไปได้พักใหญ่ ไมโครซอฟท์ก็ออกมาเผยแผนการผนวก Cortana ผู้ช่วยอัจฉริยะบนสมาร์ทโฟน ให้ไปใช้งานบนรถยนต์บ้างแล้ว
รายละเอียดเกี่ยวกับ Cortana บนรถยนต์ถูกเปิดเผยในงาน TechDays ที่เกาะไต้หวัน โดยซีโอโอของแผนกวิจัยไมโครซอฟท์เอเชียแปซิฟิก Samuel Shen เปิดเผยว่า Cortana บนรถยนต์จะใช้แนวทางต่างจากของคู่แข่งทั้ง CarPlay และ Android Auto ที่ผนวกตัวเองเข้าไปกับส่วนดูแลความบันเทิงพร้อมหน้าจอบริเวณคอนโซลรถยนต์ แต่จะไปแสดงผลบนกระจกบังลมหน้า เพื่อการแสดงผลที่ฉับไวกว่า และไม่รบกวนการขับขี่ เนื่องจากอยู่ในระดับสายตาอยู่แล้ว
ด้วยกระแสความนิยมของบริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพ และแนวโน้มการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่รวดเร็วขึ้นในระยะหลัง แม้แต่ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังสัญชาติเยอรมันอย่าง Mercedes-Benz ก็ออกมาเผยว่าสนใจจับทั้งสองเทคโนโลยีที่ว่ามาให้บริการในอนาคตแล้ว
โดยส่วนที่ Mercedes-Benz ออกมาแสดงความเห็นดังกล่าวในงานแสดงรถยนต์ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ตว่าแนวคิดบริการแท็กซี่ไร้คนขับมาจากความตั้งใจจะสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ซึ่งไม่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ส่วนตัว แต่ยังอยากใช้บริการขนส่งระดับพรีเมียมอย่างลิมูซีนอยู่
Jonathan Petit นักวิทยาศาสตร์และวิจัยด้านความปลอดภัยที่ Security Innovation บริษัทด้านความปลอดภัยซอฟต์แวร์ ได้เขียนเปเปอร์งานวิจัยที่จะนำไปพรีเซนท์ที่งาน Black Hat ในยุโรป โดยระบุว่าสามารถโจมตีรถยนต์ไร้คนขับในลักษณะ DoS (Denial of Service) โดยการหลอกเซ็นเซอร์ LIDAR ที่ถูกใช้ในรถไร้คนขับเป็นส่วนใหญ่ จนทำให้รถไม่สามารถขับเคลื่อนได้
อินเทลประกาศก่อตั้งกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยยานยนต์ (Automotive Security Review Board - ASRB) ที่จะมีนักวิจัยของตัวเองทำหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยไซเบอร์ของยานยนต์และออกแนวทางการดูแลความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
อินเทลจะส่งมอบชุดพัฒนาสำหรับรถยนต์ของตัวเองให้กับนักวิจัยใน ASRB หลังจากนั้นนักวิจัยที่พบแนวทางการพัฒนาความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีผลกระทบสูงสุดจะได้รับรถยนต์จากอินเทล และรายงานการวิจัยจะเปิดเผยเป็นสาธารณะ
แนวทางของการคำนึงถึงความปลอดภัยไซเบอร์ฉบับแรกเปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว (PDF) และทางอินเทลระบุว่าจะอัพเดตเพิ่มเติมเรื่อยๆ ตามที่นักวิจัยรายงานเพิ่มเติมเข้ามา
Google ได้ประกาศแต่งตั้ง John Krafcik เป็นซีอีโอให้กับโครงการรถยนต์ไร้คนขับ ขณะที่ Chris Urmson อดีตหัวหน้าโปรเจ็ครถไร้คนขับ จะกลายเป็นหัวหน้าทีมพัฒนายานยนต์และซอฟต์แวร์และขึ้นตรงกับ Krafcik แทน
Krafcik จบวิศวกรเครื่องกลและการบริหาร เคยเป็นหัวหน้าวิศวกรให้ Ford Motor และเคยเป็นซีอีโอให้กับ Hyundai Motor ในสหรัฐอเมริกาก่อนมารับตำแหน่งนี้ ซึ่งประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดให้กับ Hyundai ในสหรัฐ
การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งนี้อาจเป็นเค้าว่า โครงการรถไร้คนขับซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้สังกัด Google X อาจแยกตัวออกมาเป็นอิสระและไปอยู่ภายใต้ Alphabet แทน รวมไปถึงอาจคิดจะเริ่มทำธุรกิจจากโครงการนี้ด้วยเช่นกัน
Honda ได้รับการอนุญาตจากกรมการขนส่งของรัฐแคลิฟอร์เนียให้สามารถนำรถยนต์ไร้คนขับวิ่งทดสอบบนถนนสาธารณะเช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ รวมเป็น 10 บริษัท และ Honda ยังมีศูนย์ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในคองคอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อใช้ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับก่อนนำรถยนต์วิ่งทดสอบบนถนนสาธารณะ
ล่าสุด Honda ได้นำระบบช่วยเหลือการขับขี่ใส่ลงในรถยนต์ Honda และ Acura ในขณะที่ Tesla และ BMW ได้ใส่ระบบการขับขี่กึ่งอัตโนมัติในรถยนต์ที่ออกสู่ตลาดแล้ว ทั้งกูเกิล ค่ายรถยนต์ต่างๆ รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนคาดว่าเทคโนโลยีสำหรับการผลิตรถยนต์ไร้คนขับจะพร้อมในปี 2020