Adobe ประกาศปรับปรุงเงื่อนไขการใช้งานหรือ Terms of Service (ToS) ใหม่อีกครั้ง หลังจากเนื้อหาที่อัปเดตให้ผู้ใช้งานยอมรับเพื่อให้ใช้งานซอฟต์แวร์ต่อได้ก่อนหน้านี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากมีข้อความที่ทำให้ตีความได้ว่า Adobe อาจเข้าถึงข้อมูลลูกค้า และสามารถนำไปใช้เทรน AI ได้ ซึ่งแม้ Adobe ชี้แจงและยืนยันว่าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ดูเหมือนยังไม่พอ
Adobe บอกว่า ToS ใหม่จะออกมาในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะปรับปรุงภาษาข้อความที่ใช้ และแสดงความชัดเจนต่อลูกค้าว่าไม่มีการนำข้อมูลไปใช้เทรน AI โดยประเด็นหลักที่ Adobe จะปรับปรุงใน ToS นี้ได้แก่
แอปเปิลเปิดตัวฟีเจอร์ AI ของตัวเองโดยเรียกว่า Apple Intelligence ที่เป็นชุดฟีเจอร์ด้านปัญญาประดิษฐ์จำนวนมาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้นแบบเดียวกับ Samsung Galaxy AI
แอปเปิลระบุว่าพยายามจะใช้พลังประมวลผลของชิปในอุปกรณ์ผู้ใช้เป็นหลัก แต่ในกรณีที่การประมวลผลบางอย่างไม่สามารถประมวลผลในอุปกรณ์ได้จะส่งข้อมูลขึ้นคลาวด์อยู่ดี โดยเรียกว่า Private Cloud ที่่จะเปิดให้นักวิจัยเข้าตรวจสอบความปลอดภัยโค้ดที่รันอยู่ในคลาวด์ว่าเคารพความเป็นส่วนตัวผู้ใช้จริง ขณะที่ตัวโทรศัพท์นั้นจะยืนยันโค้ดที่จะรันบนคลาวด์ว่าถูกตรวจสอบแล้วจึงส่งข้อมูลให้ และข้อมูลที่ส่งไปแล้วจะถูกประมวลผลอย่างเดียวไม่เก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์อีก ภายใน Apple Intelligence นั้นจะทำ "semantic index" แปลงข้อมูลให้ค้นหาได้ตามคำบรรยาย เพื่อให้บริการต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น
ต่อเนื่องจาก Samsung ยืนยัน Galaxy Z Fold 6 และ Z Flip 6 มาพร้อม Galaxy AI ชเววอนจุน ประธานบริหารฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟนซัมซุงบอกเพิ่มเติมว่าฟีเจอร์ Live Translate จะรองรับแอปข้อความ third-party ที่รองรับการโทรแบบ VoIP ในอนาคต
แม้ชเววอนจุนจะไม่ได้บอกตัวอย่างแอปที่รองรับแต่มีแนวโน้มว่าจะเป็นแอป เช่น Facebook Messenger, Google Meet, Telegram, Viber และ WhatsApp เนื่องจากรองรับการโทรแบบ VoIP
Wired รายงานว่าแชทบอทพลัง AI ทั้งค่าย Google Gemini และ Microsoft Copilot ตอนนี้ปฏิเสธไม่ตอบคำถามทางการเมืองแล้ว แม้เป็นการถามข้อเท็จจริงด้วยคำถามว่า "Who won the 2020 US presidential election?" ก็จะได้รับคำตอบว่าไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้
กรณีของ Gemini ถึงขั้นปฏิเสธการตอบคำถามว่า "ใครเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย" ไปเลย ส่วน Copilot ยังพยายามตอบ (แม้ตอบผิด) แต่ถ้าในคำถามมีคำว่า "election" มาเกี่ยวข้อง เช่น ถามผลการเลือกตั้งของประเทศไทยในปี 2566 ก็จะปฏิเสธไม่ยอมตอบเช่นกัน
มีประเด็นจากกลุ่มผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ของ Adode เมื่อไม่กี่วันที่ผ่าน โดยพบว่า Adobe ได้แจ้งการปรับปรุงเงื่อนไขการใช้งาน (Terms of Use - ToS) ซึ่งทางเลือกเดียวคือต้องกดยอมรับ เพราะถ้าไม่ยอมรับก็ไม่สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ต่อได้
ใน ToS ใหม่นี้ Adobe ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงหนึ่งคือ "ชี้แจงว่าเราอาจเข้าถึงคอนเทนต์ของคุณผ่านวิธีการอัตโนมัติและแบบ manual เพื่อการตรวจสอบคอนเทนต์ได้" ซึ่งด้วยข้อความดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยมองว่า Adobe พยายามเข้าถึงคอนเทนต์เพื่อนำไปเทรนโมเดล AI จึงเรียกร้องให้ Adobe ชี้แจง หรือรณรงค์เลิกใช้ผลิตภัณฑ์
DuckDuckGo บริการเสิร์ชที่มีจุดขายเรื่องความเป็นส่วนตัว เปิดตัวบริการใหม่ DuckDuckGo AI Chat แชทบอตปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเลือกใช้งานได้หลายโมเดล ทั้ง GPT 3.5 Turbo ของ OpenAI, Claude 3 Haiku ของ Anthropic, Llama 3 ของ Meta และ Mixtral 8x7B ของ Mistral
จุดขายของ DuckDuckGo AI Chat ยังคงแนวทางเดิมคือบทสนทนาเป็นส่วนตัว, ถูกกำหนดไว้แบบนิรนาม (anonymous), ปลายทางไม่สามารถระบุตัวตนได้, IP ที่ส่งไปเป็นถูกแก้ไขเป็น IP ของ DuckDuckGo, และแชททั้งหมดไม่ถูกนำไปใช้เทรนโมเดล AI ต่อ
DuckDuckGo อ้างรายงานของ Pew ที่สำรวจคนอเมริกาที่คุ้นเคยกับการใช้แชทบอต AI ซึ่ง 81% มองว่าบริษัทเหล่านี้เก็บข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน แม้มองว่า AI ช่วยในหลายอย่าง แต่ก็กังวลเรื่องนี้อยู่ดี
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลล่าสุด เกี่ยวกับสิ่งที่แอปเปิลจะประกาศในงานสัมมนาประจำปีของนักพัฒนา WWDC24 สัปดาห์หน้า ซึ่งปัญญาประดิษฐ์หรือ AI จะเป็นหัวข้อหลักของคีย์โน้ต ใช้เวลาประมาณครึ่งหนึ่งของการนำเสนอ
แอปเปิลจะมีคำที่ใช้เรียกระบบ AI ใหม่ ทั้งใน iPhone, iPad และ Mac ว่า Apple Intelligence ในงานแอปเปิลจะประกาศความร่วมมือกับ OpenAI ในการนำ AI แชทบอตมาให้ใช้งาน
Gurman สรุปฟีเจอร์ AI Apple Intelligence ที่จะเปิดตัวในงานดังนี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวของ Meta ที่บอกว่าบริษัทจะนำโพสต์ที่เป็นสาธารณะทั้งบน Facebook และ Instagram มาใช้เทรนโมเดล AI (แต่ในยุโรปสามารถ opt-out ได้) ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนไม่พอใจและมองหาทางเลือกใหม่ คำตอบหนึ่งคือ Cara แพลตฟอร์มโซเชียลโพสต์รูปภาพ ซึ่งมีจำนวนสมาชิกใหม่กว่า 5 แสนคนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
Cara ไม่ใช่แอปใหม่ เพราะเปิดตัวมาตั้งแต่มกราคมปีที่แล้ว เพียงแต่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักจนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้ที่เคยอยู่หลักหมื่น เพิ่มขึ้นมาเป็นหลายแสน กระแสนี้แม้แต่ผู้ก่อตั้ง Jingna Zhang ซึ่งเป็นช่างภาพและศิลปินด้วยยังบอกว่าไม่คาดคิดมาก่อน
ชเววอนจุน ประธานบริหารฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟนซัมซุงยืนยันผ่านโพสต์ใน Samsung Newsroom ว่าขยายฟีเจอร์ Galaxy AI ไปยัง “โทรศัพท์พับได้” (foldables) ที่กำลังจะเปิดตัวรุ่นต่อไป ซึ่งก็น่าจะเป็น Samsang Galaxy Z Fold 6 และ Z Filp 6 ที่คาดว่าจะวางขายเดือนกรกฎาคมนี้
Galaxy AI เปิดตัวพร้อมกับ Galaxy S24 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยชเววอนจุนเสริมว่าซัมซุงพยายามที่จะปรับ AI ให้สามารถมีการตอบสนองที่รวดเร็วโดยอาศัย NPU โทรศัพท์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา รวมถึงเพิ่มฟังก์ชันให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องพึ่งพามือถือมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
The Wall Street Journal มีรายงานพิเศษ ซึ่งเน้นไปที่ประเด็นว่าทำไมแอปเปิลจึงตามหลังบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ทั้งที่หากพูดถึงระบบผู้ช่วยอัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียงแล้ว แอปเปิลมี Siri ที่เปิดตัวก่อนคู่แข่งรายอื่นเสียอีก
รายงานบอกว่าปัญหาสำคัญคือรูปแบบการทำงานในสไตล์แอปเปิล เช่นการรักษาความลับมากจนทำให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนา AI, แนวทางที่แอปเปิลต้องการให้ผลิตภัณฑ์ไม่มีข้อผิดพลาด ซึ่ง AI ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น และการรักษาความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งาน ทำให้การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ทำได้ยากกว่า
Mistral บริษัทปัญญาประดิษฐ์จากฝรั่งเศส เปิดตัวโมเดล AI ใหม่ ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรายละเอียด ให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการนำไปใช้เพิ่มเติมได้
โดย Mistral ได้ออก SDK ชื่อว่า Mistral-Finetune ทำให้สามารถปรับแต่งโมเดลได้ รองรับทั้งการรันบนเวิร์กสเตชัน, เซิร์ฟเวอร์ หรือโนดในศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก และมีอีกทางเลือกคือปรับแต่งโมเดลผ่าน API ก็ทำได้เช่นกัน
การปรับแต่งโมเดล AI ตอนนี้รองรับสองโมเดลคือ Mistral Small และ Mistral 7B ก่อน ส่วนโมเดลอื่นจะรองรับเพิ่มเติมในอนาคต
ที่มา: Mistral
Wix แพลตฟอร์มเครื่องมือสำหรับสร้างเว็บไซต์ เปิดตัวความสามารถด้าน AI สำหรับเครื่องมือสร้างแอปมือถือ Mobile App Builder ซึ่งผู้ใช้งานสามารถป้อนข้อความกับแชทบอต อธิบายรายละเอียดแอปสมาร์ทโฟนที่ต้องการ ระบบจะสร้างแอปมาให้ รองรับทั้ง iOS และ Android
รูปแบบการทำงานนั้น แชทบอตจะสอบถามในรายละเอียดเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ต้องการของแอป หน้าตาการใช้งาน ฟังก์ชัน ดีไซน์ นอกจากนี้ยังสามารถใส่สัญลักษณ์เฉพาะเช่นโลโก้ของแบรนด์เข้าไปได้ด้วย หากต้องการปรับแต่งในรายละเอียดสามารถใช้เครื่องมือ Mobile App Editor แก้ไขเพิ่มเติมได้
ฟีเจอร์แชท AI สำหรับ Mobile App Builder เปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับผู้ใช้งาน Wix ที่สมัครแผนพรีเมียม Branded App ราคา 99 ดอลลาร์ต่อเดือน รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ
The New York Times อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง บอกว่าหน่วยงานของสหรัฐเตรียมทำการสอบสวนบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ในประเด็นการผูกขาดในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์หรือ AI
โดยกระทรวงยุติธรรม (DoJ) จะรับผิดชอบในการสอบสวน NVIDIA ส่วนคณะกรรมการกำกับดูแลการค้าของสหรัฐ (FTC) จะตรวจสอบ OpenAI และไมโครซอฟท์
ไมโครซอฟท์นั้นอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของ FTC ในเรื่องเกี่ยวกับ AI อยู่แล้ว จากการตั้งซีอีโอ Inflection AI เป็นหัวหน้าฝ่าย Microsoft AI ซึ่ง FTC บอกว่ารูปแบบดีลนี้เป็นการซื้อตัวซีอีโอและเทคโนโลยีสำคัญเข้ามา เพื่อหลบเลี่ยงการซื้อกิจการโดยตรงที่ต้องรายงานต่อหน่วยงานกำกับดูแล
Carl Pei ซีอีโอ Nothing โพสต์วิดีโอใน X เพื่อพูดถึงแนวทางการออกแบบฟีเจอร์ด้าน AI ในสมาร์ทโฟน ซึ่งคาดว่าจะนำมาใส่ใน Nothing Phone (3) กำหนดวางขายในปีหน้า
Pei บอกว่าตอนนี้ถนนทุกสายล้วนมุ่งสู่ AI ในมุมมองของเขา การสร้างฮาร์ดแวร์ AI ที่ดีที่สุดก็คือทำในสมาร์ทโฟน เพราะทุกคนรักและคุ้นเคยกับมันดี ปัญหาคือสมาร์ทโฟนแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยในด้านประสบการณ์ใช้งานช่วงหลายปีมานี้ การนำ AI มาใส่สมาร์ทโฟนจึงต้องออกแบบการใช้งานใหม่
Stability AI เปิดตัวโมเดล Stable Audio Open เป็นโมเดลสร้างเสียงจากข้อความ (text-to-audio) แบบโอเพนซอร์ส เวอร์ชันตัดทอนความสามารถลงจาก Stable Audio เวอร์ชันใช้งานเชิงพาณิชย์
ความแตกต่างสำคัญของ Stable Audio Open กับ Stable Audio ตัวเต็มคือเวอร์ชัน Open สามารถสร้างเสียงได้ 47 วินาที เทียบกับตัวเต็ม 3 นาที โดยทาง Stability AI ระบุว่าโมเดล Open ออกแบบมาสำหรับเพื่อสร้างเสียงตัวอย่างและซาวน์เอฟเฟคต์ มากกว่าเป็นการสร้างเพลงแบบเต็มเพลง ตัวอย่างเสียงสามารถฟังได้จากที่มา
Cisco เปิดตัว Nexus HyperFabric AI Cluster โซลูชันสำหรับบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานในศูนย์ข้อมูล สำหรับงานพัฒนาหรือรันโมเดล Generative AI ซึ่งเป็นความร่วมมือของ Cisco กับ NVIDIA ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้าง จัดการ และปรับแต่งสิ่งต่าง ๆ ได้สะดวกมากขึ้น
Cisco ระบุว่าจากรายงานแนวโน้มของระบบเครือข่าย ในอีกสองปีข้างหน้า 60% ของผู้บริหารด้านไอทีในองค์กรคาดว่าจะมีการดีพลอย AI สำหรับช่วยคาดการณ์ออโตเมชันในระบบเครือข่าย นอกจากนี้ 75% มีแผนดีพลอยเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบการทำงานจากแต่ละจุด บนการเชื่อมต่อที่แตกต่างกันทั้งโครงข่าย ซึ่งรวมทั้งเครือข่ายภายในสำนักงาน, WAN, ในศูนย์ข้อมูล, อินเทอร์เน็ต จนถึงพับลิกคลาวด์
แอปเปิลจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ประจำปี iOS 18 ในงาน WWDC สัปดาห์หน้า ซึ่งตามรายงานข่าวช่วงที่ผ่านมา ฟีเจอร์ด้าน AI คาดว่าเป็นความร่วมมือกับ OpenAI ล่าสุด Mark Gurman แห่ง Bloomberg มีรายละเอียดเพิ่มเติมของดีลนี้
Gurman บอกว่าแอปเปิลได้เจรจากับบริษัทพัฒนาเทคโนโลยี AI หลายแห่ง หลังจากบริษัทได้พยายามพัฒนา AI ในระบบปฏิบัติการขึ้นมาเอง โดย iOS และ iPadOS เวอร์ชันนี้มีโค้ดเนมภายในว่า Crystal ซึ่งฟีเจอร์ที่ทำได้พบว่ายังไม่โดดเด่นพอ เมื่อเทียบกับ AI จากบริษัทคู่แข่ง
Amazon เผยรายละเอียดของ Project P.I. (ย่อมาจาก Private Investigator) เป็นการนำเทคนิค computer vision เข้ามาช่วยสแกนสินค้าว่าเสียหายหรือไม่ ก่อนบรรจุลงกล่องส่งไปหาลูกค้า เพื่ิอลดการคืนสินค้าหรือคำร้องเรียนจากลูกค้าลง
สินค้าที่อยู่ในโกดังของ Amazon ก่อนจัดส่งจะถูกส่งเข้า image tunnel เพื่อถ่ายภาพ แล้วให้ Project P.I. ช่วยวิเคราะห์ความบกพร่องชนิดต่างๆ (เช่น ปกหนังสือยับ) แล้วแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่มนุษย์ เพื่อตัดสินใจว่าควรทำอย่างไรกับสินค้าที่มีปัญหานั้น เช่น นำไปขายเป็นสินค้ามือสอง (Amazon Second Chance) หรือบริจาค
Raspberry Pi เปิดตัวบอร์ดเสริม AI Kit ราคา 70 ดอลลาร์ สำหรับใช้เร่งการประมวลผล AI โดยใช้คู่กับ Raspberry Pi 5 ที่เป็นบอร์ดหลัก
Raspberry Pi AI Kit ประกอบด้วยชิ้นส่วน 2 ชิ้นคือ M.2 HAT+ สำหรับต่อขยายอุปกรณ์เสริมที่เป็นสล็อต M.2 (เช่น พวก NVMe SSD) กับชิปเร่งความเร็ว AI Hailo-8L ของบริษัท Hailo จากอิสราเอล ที่อยู่ในรูปสล็อต M.2 2242
ชิป Hailo-8L มีสมรรถนะ 13 TOPS รูปแบบการใช้งานหลักๆ คือประมวลผลภาพ (AI vision) ที่ทำงานแบบเรียลไทม์ ตอบสนองรวดเร็ว (เพราะประมวลผลในเครื่องเอง) ใช้พลังประมวลผลต่ำ ดูแลง่าย ราคาไม่แพง
กลุ่มอดีตพนักงาน OpenAI และพนักงานปัจจุบัน รวมทั้งบริษัท AI อื่น ออกจดหมายเปิดผนึกแฉปัญหาความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนารวดเร็ว แต่ยังขาดการกำกับดูแลที่ดี รวมทั้งไม่มีกระบวนการคุ้มครองหากมีพนักงานเลือกแจ้งเบาะแสในสิ่งที่ไม่เหมาะสม (whistleblower)
เนื้อหาในเว็บไซต์ของจดหมายเปิดผนึก righttowarn.ai บอกว่าบริษัทด้าน AI ต่างมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการกำกับดูแลทั้งจากในวงการวิทยาศาสตร์นักวิจัย, ผู้ออกกฎหมายกำกับดูแล ไปจนถึงสาธารณะ โครงสร้างที่บริษัทเหล่านี้ใช้อยู่ปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะดูแลสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้ต่างรู้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จนถึงผลกระทบต่อสังคมที่อาจเกิดขึ้นอยู่แล้ว
คุณโจเซฟีน เตียว (Josephine Teo) รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศแห่งสิงคโปร์ เปิดตัว AI Verify - Project Moonshot เวอร์ชันเบต้าเป็นชุดเครื่องมือทดสอบปัญญาประดิษฐ์ ออกแบบมาประเมินความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ซึ่งเป็น Open-source เจ้าแรกๆ ที่สามารถจำลองการโจมตี (red-teaming) การเปรียบเทียบมาตรฐาน และการทดสอบพื้นฐานมารวมกันในแพลตฟอร์มเพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้าน AI
ในงาน Computex ล่าสุด Intel และ AMD มีการเปิดตัวชิปใหม่ ซึ่งมี NPU ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเข้ามาด้วย แต่ยังไม่สามารถรองรับ Copilot+ ของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ได้
ไมโครซอฟท์ระบุตอนเปิดตัวว่า Copilot+ จะรองรับทั้ง Intel, AMD และ Qualcomm แต่ยังไม่มีการระบุไทม์ไลน์ชัดๆ โดยโฆษกไมโครซอฟท์ยืนยันกับ XDA ทั้ง Intel และ AMD จะมีการออก SoC ที่มีสเปคคล้ายๆ กับของ Qualcomm (น่าจะหมายถึงชิปสถาปัตยกรรม ARM)
ที่มา:XDA
Tony Vinciquerra ซีอีโอ Sony Pictures Entertainment ส่วนธุรกิจผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ของโซนี่ เปิดเผยในงานแถลงข่าวกับนักลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพูดถึง AI ว่าเป็นสิ่งที่บริษัทกำลังให้ตวามสำคัญมาก เพราะปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ของการผลิตภาพยนตร์คือค่าใช้จ่าย จึงมองหาแนวทางปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการใช้ AI คือแนวทางหลัก
เรื่องนี้ต้องย้อนไปเมื่อ 1 เมษายน ปี 2017 ซึ่ง NVIDIA เปิดตัวระบบปัญญาประดิษฐ์ชื่อว่า G-Assist ที่สามารถช่วยเล่นเกมให้เราได้ แม้กระทั่งบอสที่ยากมาก ซึ่งเวลานั้นและวันที่ประกาศ ก็คือมุกตลก April Fools เท่านั้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
NVIDIA เปิดตัว Project G-Assist (ใช้ชื่อเดิมด้วย) ระบบ AI ผู้ช่วยทำงานบน RTX ที่ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลช่วยแนะนำแผนการเล่นเกมได้ โดยใช้อินพุททั้งข้อความ, เสียง, หน้าจอเกมในตอนนั้น โมเดลนี้ทำงานได้ทั้งบน RTX AI PC และบนคลาวด์
เรื่องนี้มีผลเฉพาะผู้ใช้งานในยุโรป โดย Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้แจ้งผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศนี้ว่า บริษัทจะนำโพสต์ที่เป็นสาธารณะมาช่วยพัฒนาและปรับปรุง AI มีผลตั้งแต่ 26 มิถุนายน เป็นต้นไป
ข้อมูลที่จะนำมาใช้เทรน AI มีทั้งที่เป็นโพสต์ รูปภาพ แคปชัน และข้อความที่แชทหาแชทบอต AI ส่วนข้อมูลที่ไม่นำมาเทรนคือข้อความส่วนตัว
Meta บอกว่าบริษัทได้แจ้งกับผู้ใช้งานทั้งในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร ถึงการนำข้อมูลมาใช้งานดังกล่าว ซึ่งตามข้อกำหนดของกฎหมาย GDPR สามารถทำได้ แต่ต้องเปิดทางเลือกให้ผู้ใช้งานปิดไม่ให้ข้อมูลของตนถูกนำไปเทรนได้เช่นกัน (opt-out)