การแข่งขันออกแบบเว็บไซต์ด้วย HTML5 เต็มรูปแบบ จัดโดยไมโครซอฟท์ประเทศไทย ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ดังนั้นหัวข้อของเว็บที่แข่งจึงเป็นเรื่องการท่องเที่ยว) งานนี้ Blognone ร่วมเป็นสปอนเซอร์ด้วย และผมก็เป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินด้วย (ใครจะล็อบบี้ก็รีบๆ นะครับ :P)

การแข่งขันครั้งนี้จะรวมเอาเทคโนโลยีการออกแบบเว็บสมัยใหม่มาไว้ครบถ้วน ตั้งแต่ HTML5 เพียวๆ ห้ามใช้ Flash, ให้เลือกใช้ JavaScript Library ยอดนิยม, การออกแบบแนว responsive เวอร์ชันเดียวแสดงได้ทุกหน้าจอ, ทดสอบกับเบราว์เซอร์ใหม่ล่าสุดเท่านั้น ฯลฯ

ผลการสำรวจของ Consumer Intelligence Research Partners ถามข้อมูลของผู้ซื้อ iPhone 4S ในสหรัฐระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2011 จำนวน 6,316 คน พบสถิติที่น่าสนใจดังนี้

• 21% ของผู้ซื้อ iPhone 4S เลือกซื้อรุ่นความจุสูงสุด 64GB (ตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับผลสำรวจของอีกบริษัทคือ Piper Jaffray ที่อยู่ประมาณ 19%)
• 36% ของผู้ซื้อ iPhone 4S มาจากแพลตฟอร์มอื่น (ตัวเลขนี้ช่วงแรกที่ iPhone 4S วางขายอยู่ที่ 18% และเพิ่มเป็น 36% ในช่วงสิ้นปี 2011)

ที่มา - AppleInsider

โอเปอเรเตอร์รายใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น au by KDDI เริ่มทดสอบโฆษณาบน notification bar ของมือถือ Android

กระบวนการโฆษณาของ au คือแอพ au one Market ซึ่งเป็นแอพที่แถมมากับมือถือของ au ตั้งแต่แรก (เป็นร้านขายแอพอีกอันนอกเหนือจาก Android Market) จะแสดงสถานะเป็นข้อความโฆษณาให้ดาวน์โหลดแอดใน au one market เป็นระยะ (ภาพตามลิงก์)

ผู้ใช้งาน au by KDDI สามารถปิดการแสดงผลนี้ได้ แต่ต้องคลิกลิงก์ตัวเล็กๆ ในหน้าเงื่อนไขการใช้งาน แน่นอนว่าผู้ใช้ที่พบโฆษณานี้ย่อมไม่ชอบใจ และมีคนบ่นเรื่องนี้ทางทวิตเตอร์พอสมควร

ที่มา - Asiajin

ใครยังจำ Lytro กล้องที่ให้คุณถ่ายรูปไว้ก่อนแล้วค่อยโฟกัสทีหลังได้บ้าง? ล่าสุด 9to5Mac รายงานว่าสตีฟ จ็อบส์เมื่อได้เห็นเทคโนโลยีที่ Lytro ได้นำออกมาโชว์แล้วได้ทำพยายามติดต่อกับซีอีโอของบริษัท นาย Ren Ng ทันที

โดยเมื่อ Ng ทราบว่าสตีฟ จ็อบส์ต้องการติดต่อกับเขา เขาจึงรีบติดต่อกลับจ็อบส์ทันที โดยจ็อบส์ได้ชวนเขาโชว์กล้อง Lytro นี้ที่บ้านของจ็อบส์ โดยหลังจากที่เขานำกล้องดังกล่าวโชว์ให้กับจ็อบส์เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองได้พูดคุยกันเรื่องตัวกล้องและการดีไซน์สินค้า จากนั้น Ng ก็ได้ทำตามที่จ็อบส์ขอไว้ คือส่งอีเมลที่มีสิ่งสามสิ่งที่ Lytro อยากจะร่วมมือกับแอปเปิลมาด้วย

สถิติจาก OccasionalGame ผู้พัฒนาเกมบนแพลตฟอร์ม Windows Phone พอจะบอกได้ว่ามือถือรุ่นใดบ้างที่ได้รับความนิยม

ถ้ารวมมือถือ Windows Phone ทั้งหมดที่เคยวางขายมา แบรนด์ที่ครองตลาด (ตามสถิติของบริษัทนี้) มากที่สุดคือ HTC 55% ตามด้วย Samsung 28%, LG 12% และ Nokia 4% ส่วนมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Samsung Focus หรือ SGH-i917 และตามด้วย HTC HD7 ซึ่งแยกเป็นสองรุ่นย่อย (ถ้ารวมกันจะมากกว่า Samsung Focus)

แต่ถ้านับเฉพาะมือถือ Windows Phone ระลอกสองที่ขายพร้อมกับ Mango สถานการณ์จะต่างไป เพราะ Nokia ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาด 45% ตามด้วย HTC 40% และ Samsung 12%

บริษัทวิจัย Ovum รายงานผลสำรวจความเห็นของนักพัฒนาแอพบนมือถือ พบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

วันนี้ ASUS ประเทศไทยมีงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ตัว คือ ASUS Transformer Prime และ Zenbook โน้ตบุ๊กสาย ultrabook

งานแถลงข่าวยังไม่เคาะราคาขายอย่างเป็นทางการ แต่มีผลิตภัณฑ์ของจริงมาให้จับ ก็เข้าเรื่องเลยไม่ต้องเสียเวลา

Transformer Prime

ตัวนี้เป็น Prime ตัวแรกที่เปิดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว ยังไม่ใช่ Prime TF700T ที่เปิดตัวในงาน CES

สรุปสั้นๆ

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Microsoft Imagine Cup ซึ่งเป็นรายการแข่งขันพัฒนาซอฟต์แวร์ระดับโลกสำหรับนักศึกษา และมีเด็กไทยเคยไปคว้ารางวัลชนะเลิศมาแล้ว ได้เปิดตัว 2 หมวดการแข่งขันใหม่ คือ Kinect Fun Labs Challenge หรือการแข่งขันพัฒนาแอพพลิเคชั่นโดยใช้ Kinect ซึ่งสปอนเซอร์โดย Microsoft Studios (หรือชื่อเก่าคือ Microsoft Game Studios) และ Windows Metro Style App Challenge หรือการแข่งขันพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบ Metro Style บน Windows 8 นั่นเอง

VMware รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2011 ยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้ 1.06 พันล้านดอลลาร์ และคิดเป็นกำไรสุทธิ 200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 67% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2010 โดยมีรายได้จากการขายไลเซนส์และบริการหลังการขายอย่างละประมาณ 50%

VMware กล่าวว่าแม้ลูกค้าองค์กรซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มหลักอาจมีความกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจยังมีความผันผวน จนน่าจะส่งผลให้มีการควบคุมค่าใช้จ่าย แต่เพราะบริษัทส่วนใหญ่ได้ตั้งงบประมาณไว้แล้วตั้งแต่ต้นปีจึงยังมีการใช้จ่ายต่อเนื่องตามปกติ ทำให้ตัวเลขในไตรมาสสุดท้ายยังออกมาดี แต่ปี 2012 จะเป็นความท้าทายต่อไปสำหรับ VMware

หลังจากที่ Chronic-Dev Team ได้ปล่อยเจลเบรคแบบ Untethered สำหรับอุปกรณ์ iOS ที่ทำงานด้วยชิป A5 อย่าง iPhone 4S และ iPad 2 แล้วในชื่อ Absinthe ล่าสุดมีรายงานแล้วว่าภายในเวลาเพียงแค่สามวัน มียอดการติดตั้ง Absinthe ไปใช้แล้วถึงหนึ่งล้านครั้ง

โดยทีมงาน Chronic-Dev Team สามารถระบุตัวเลขการติดตั้งที่แท้จริงได้ผ่านทางระบบสถิติของ Cydia ที่ติดตั้งมาให้พร้อม ๆ กับตัวเจลเบรค สำหรับตัวเลขการติดตั้งที่แท้จริงแบ่งเป็น iPhone 4S จำนวน 491,325 เครื่อง, iPad 2 จำนวน 308,967 เครื่องและ iPad 2 ที่เคยผ่านการเจลเบรคมาแล้วตอนใช้ iOS 4 จำนวน 152,940 เครื่อง

ทีมงานฯ ยังได้ขอเตือนผู้ทำการเจลเบรคทุกคนอีกว่าอย่าทำการอัพเกรดระบบปฏิบัติการไปเป็น iOS เวอร์ชั่นอื่นนอกจาก 5.0.1

จากที่เราทราบกับดีในหนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ ว่าจ็อบส์ไม่พอใจใน Android อย่างมาก และพร้อมที่จะทุ่มเงินสดที่แอปเปิลมีอยู่ในมือทั้งหมด​ (ที่มากกว่าเงินคงคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ)​ เพื่อจะกำจัด Android ให้สำเร็จ ล่าสุดคอลัมนิสจาก Newsweek นาย Dan Lyons อ้างว่าแอปเปิลใช้เงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ในการฟ้อง HTC เพียงรายเดียว

รายงานของ Lyons ยังกล่าวว่าแอปเปิลจ้างแต่ทนายที่เก่งและแพงที่สุดในโลกเกี่ยวกับคดีสิทธิบัตร แต่แอปเปิลก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกบริษัทที่แอปเปิลฟ้องต่างก็ฟ้องกลับ และแอปเปิลก็เริ่มแพ้คดีต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่นคดีระหว่างแอปเปิลกับโนเกีย ที่สุดท้ายแล้วแอปเปิลต้องจ่ายค่าไลเซ่นส์ให้กับโนเกียเป็นจำนวนมาก

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผู้บริหารของกูเกิลออกมายอมรับว่านโยบาย "บังคับใช้ชื่อจริง" ใน Google+ นั้นไม่เวิร์ค และสัญญาว่าจะปรับปรุงในเรื่องนี้ ข่าวเก่า วันนี้มันมาแล้วครับ

สายการบิน Virgin America หนึ่งในบริษัทเครือ Virgin Group ตั้งชื่อเครื่องบิน Airbus A320 ลำหนึ่งของตัวเองว่า 'Stay Hungry, Stay Foolish' เพื่อเป็นเกียรติแก่สตีฟ จ็อบส์

โฆษกของ Virgin America ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ CNET ว่าชื่อนี้มาจากการแข่งขันตั้งชื่อเครื่องบินของพนักงานภายในบริษัท ซึ่งบริษัทตัดสินใจใช้ชื่อนี้เพราะเป้าหมายของบริษัทคือ 'reinvent the travel experience' โดยการคิดนอกกรอบ

เครื่องบินลำนี้จะมีข้อความ 'Stay Hungry, Stay Foolish' แปะอยู่ที่จมูกเครื่องด้วย (ดูภาพประกอบ) ก่อนหน้านี้เครือ Virgin เคยมีเครื่องอีกลำชื่อ #nerdbird (ภาพประกอบ)

Dice Holdings เว็บไซต์สมัครงานสายเทคโนโลยีได้เปิดเผยข้อมูลของเงินเดือนเหล่าวิศวกรทางด้านซอฟต์แวร์ และวิศวกรสาขาอื่นๆ ในแถบที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีอย่าง Silicon Valley ผลคือรายได้ต่อปีของคนเหล่านี้ทะลุ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีไปแล้ว

ตัวเลขแบบชัดๆ อยู่ที่ 104,195 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราวร้อยละ 5.2 นับว่าสูงกว่าแถบอื่นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับรายได้ของอาชีพใกล้เคียงกันทั่วสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ 81,327 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาราวร้อยละ 2 เท่านั้น

Dice Holdings บอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เหล่าวิศวกรใน Silicon Valley ทำลายกำแพง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมาเมื่อปี 2001

Thorsten Heins ซีอีโอคนใหม่ของ RIM ออกมาแนะนำตัวกับสื่อมวลชน และตอบคำถามเรื่องทิศทางของบริษัทหลายข้อ

มีผู้ใช้รายหนึ่งไปถาม ASUS อเมริกาเหนือใน Facebook ว่าแท็บเล็ต Transformer รุ่นแรกจะได้อัพเกรดเป็น Android 4.0 Ice Cream Sandwich เมื่อไรกันแน่

คำตอบของ ASUS อเมริกาเหนือคือ "กลางเดือนกุมภาพันธ์" (mid-February)

สำหรับผู้ใช้ในประเทศอื่นๆ ยังไม่มีข้อมูล แต่เอาเข้าจริงคงใช้รอมรุ่นที่ไม่ต่างกันมาก น่าจะได้ห่างกันไม่นานครับ ถือเป็นสัญญาณที่ดีของคนที่มี Transformer อยู่ในมือตอนนี้

ที่มา - ASUS North America via BGR

ข่าวนี้ยังไม่ใช่ตัวเลขอย่างเป็นทางการของโนเกีย แต่สำนักข่าว Bloomberg สอบถามได้ยังนักวิเคราะห์การเงิน 22 ราย ให้ประเมินว่าโนเกียขาย Lumia ได้กี่เครื่องในปี 2011 (จริงๆ ก็คือขาย 2 เดือน พ.ย.-ธ.ค.)

คำตอบออกมาหลากหลาย ตั้งแต่ 800,000-2,000,000 เครื่อง แต่หาค่าเฉลี่ยออกมาแล้วอยู่ที่ 1.3 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่เลวทีเดียว เพราะโนเกียขาย Lumia 800/710 เพียงสองรุ่นในบางประเทศเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่ง (เพียงรายเดียว) ประเมินว่าฝาแฝดกันอย่าง Nokia N9 ขายได้ 1.4 ล้านเครื่อง แต่ไม่มีตัวเลขว่านักวิเคราะห์รายนี้ประเมิน Lumia ว่าขายได้กี่เครื่อง

ในวงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีความจำเป็นต้องส่งข้อมูลระหว่างหน่วยประมวลผลแต่ละชุด โดยต้องการส่งข้อมูลจำนวนมาก ความเร็วสูงและมีประสิทธิภาพ

InfiniBand เป็นเทคโนโลยีการส่งข้อมูลระหว่างหน่วยประมวลผลที่นิยมใช้กัน ดูได้จาก 10 อันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีการจัดอันดับเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ก็มีการใช้เทคโนโลยีจาก InfiniBand ไปถึง 5 จาก 10 อันดับแรก (TOP 500)

ช่วงหลังกูเกิลปรับอัลกอริทึมในการจัดอันดับผลค้นหาบ่อยมาก และมีเงื่อนไขใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุดเงื่อนไขใหม่คือการเข้ามาดูว่าในเว็บมีการแสดงโฆษณา "ด้านบน" เนื้อหามากเกินไปหรือไม่

อัลกอริทึมใหม่นี้จะมีผลเฉพาะกับเว็บที่มีโฆษณาด้านบนมากเกินไปจนกระทั่งดันเนื้อหาจริงลงไปด้านล่างอย่างผิดปรกติ โดยกูเกิลคาดว่าการปรับผลใหม่นี้จะมีผลต่อการค้นหารวมต่ำกว่า 1% ของการค้นหาทั้งโลก (แม้จะดูน้อย แต่นับครั้งจริงๆ ถือว่าสูงมาก)

กูเกิลจะคำนวณ layout ใหม่ทุกครั้งที่ตัว crawler เข้ามาดูดเว็บ งานนี้แสดงว่ากูเกิลวาดหน้าเว็บเพื่อคำนวนค่าต่างๆ สำหรับจัดอันดับค้นหาด้วย

หลายๆ คนคงทราบดีว่าอิหร่านเป็นประเทศที่มีความเข้มงวดกับอินเทอร์เน็ตและกิจกรรมออนไลน์ของประชาชนเป็นอย่างมาก (ใน Blognone ก็เคยรายงานอยู่หลายข่าว ติดตามได้จากแท็ก Iran) คดีล่าสุดที่ได้รับความสนใจจากต่างชาติเป็นเรื่องที่ศาลฎีกาของอิหร่านตัดสินพิพากษาประหารชีวิตโปรแกรมเมอร์คนหนึ่งด้วยข้อหา "ดูหมิ่นความเป็นที่สักการะของศาสนา"

อันนี้ไม่ใช่โฆษณาครับ แต่ผมเห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาลงหน่อย (IBM จะมาจ่ายเงินให้ก็ยินดียิ่ง)

โครงการ SmartCloud Challenge เป็นโครงการของ IBM โดยมี SIPA และ Software Park ร่วมสนับสนุน รูปแบบโครงการคือการสอนวิชา cloud computing โดยมีคอร์สเรียนผ่านอินเทอร์เน็ต (ต้องใช้บัญชี IBM developerWorks) จากนั้นมาทำควิซ 40 ข้อภายใน 45 นาที ผู้ที่ทำคะแนนสูงสุดใน 3 ประเทศ (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) จะได้รางวัลเป็น iPad และใบรับรองจาก IBM ส่วนรางวัลที่เหลือเป็นคูปองสำหรับสอบใบรับรองของ IBM

โครงการนี้แบ่งรุ่นเป็นนักศึกษาและบุคคลทั่วไป หมดเขตตอบควิซวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ รายละเอียดดูกันเองที่ SmartCloud Challenge

Larry Page ตอบคำถามนักลงทุนใน งา

Sony Xperia S หรือที่เราเคยเรียกมันว่า "Nozomi" มือถือตัวท็อปของ Sony/Sony Ericsson ที่เพิ่งเปิดตัวที่งาน CES 2012 ต้นเดือนนี้ อาจจะวางขายเร็วกว่าที่คาด

Hitachi ประกาศปรับโครงสร้างการผลิตทีวีจอแบนของตัวเองใหม่ โดยโอนธุรกิจทีวีและพนักงานจาก Hitachi Consumer Electronics ไปยังบริษัทลูก Hitachi CM มีผลวันที่ 1 เมษายนนี้

จากนั้น Hitachi จะปิดโรงงานของ Hitachi Consumer Electronics ในญี่ปุ่นหนึ่งแห่ง ซึ่งมีกำลังผลิตทีวีเดือนละ 100,000 เครื่อง ด้วยเหตุผลเรื่องต้นทุนที่เพิ่มสูงจนแข่งขันในตลาดไม่ได้

Hitachi จะยังทำทีวีขายในญี่ปุ่นต่อไป แต่จะใช้วิธีจ้างบริษัทคู่สัญญาภายนอกประเทศผลิตให้แทน

ที่มา - Engadget

หลังการปิดเว็บ Megaupload ก็สร้างความไม่พอใจให้กับคนหลายกลุ่มจนมาถึงกลุ่ม Anonymous ที่เน้นการตอบโต้กับเจ้าของลิขสิทธิ์และรัฐบาล จนเริ่มปฏิบัติการ #OpGlobalBlackout ที่ตั้งเป้าหมายไปยังเว็บต่างๆ ทั่วโลก

กลุ่ม Anonymous ประกาศว่ากลุ่มสามารถเข้าถึงเว็บสำคัญๆ ทั่วโลกทั้ง UN, Xbox Live, ธนาคาร, และเว็บเครือข่ายสังคมหลายเว็บได้ โดยยื่นข้อเสนอว่าทางรัฐบาลต้องเปิด Megaupload กลับมาภายในสามวัน โดยประกาศมาแล้วตั้งแต่สามวันก่อน

เว็บแรกที่เริ่มถูกโจมตีคือ CBS.com ที่ถูกแก้ค่า DNS จนไม่สามารถเข้าใช้งานได้ และทางกลุ่ม Anonymous เริ่มเผยแพร่เว็บที่ใส่ JavaScript เพื่อโหลดเว็บเป้าหมายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะล่มเพื่อเรียกร้องให้คนที่ต้องการมีส่วนร่วมได้กด และโจมตี DDoS กับเว็บเป้าหมาย