เว็บไซต์ PatentlyApple รายงานว่าได้ค้นพบสิทธิบัตรของแอปเปิลในเรื่องฟีเจอร์แลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไร้สาย (แบบเดียวกับฟีเจอร์ Touch-to-Share ของเอชพี) ซึ่งตามสิทธิบัตรของแอปเปิลนั้น
สถิติทราฟฟิกจากบริษัท comScore ระบุว่า LinkedIn เครือข่ายสังคมสำหรับการทำงาน ได้แซง Myspace อดีตยักษ์ที่มีส่วนแบ่งตลาดลดลงเรื่อยๆ ขึ้นมาเป็นเครือข่ายอันดับสองของชาวอเมริกันแล้ว
ส่วน Twitter ก็มีทราฟฟิกไล่จี้ LinkedIn มาติดๆ ลำดับตามตัวเลขคือ LinkedIn 33.9 ล้านคนต่อเดือน, Myspace 33.5 ล้าน, Twitter 30.6 ล้าน
อันดับหนึ่งแบบทิ้งห่างย่อมเป็น Facebook ที่ 160.8 ล้านคนต่อเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
ที่มา - TechCrunch
ศาสตราจารย์กิติคุณ ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตผู้เชี่ยวชาญภาษาและวรรณคดีไทยให้ความเห็นว่าปัจจุบันการใช้ภาษาไทยของคนไทยอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง มีการใช้คำตามกระแสนิยม ใช้ไทยคำอังกฤษคำ โดยเฉพาะคำศัพท์ที่เกิดขึ้นในสังคมอินเทอร์เน็ต ที่มักเป็นคำง่ายๆ กะทัดรัด และไม่ถูกอักขระภาษา ทั้งนี้ราชบัณฑิตก็กำลังรวบรวมคำใหม่ที่คนไทยนิยมใช้กันในปัจจุบันเพื่อให้นำมาใช้แทนได้ โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสม
แอปเปิลยังเดินหน้าไล่ฟ้องบริษัทที่ใช้คำว่า "app store" ต่อไป จากที่มีกรณีฟ้อง Amazon Appstore จนเป็นมหากาพย์ยาวนาน และยื่นจดหมายสั่งให้ร้านขายแอพสำหรับผู้ใช้ MiKandi เลิกใช้คำนี้
ล่าสุดหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ได้เอกสารหลุดมาจากบริษัทกฎหมายที่แอปเปิลจ้าง โดยเป็นจดหมายส่งไปยังร้านขายแอพอิสระ GetJar ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา บอกให้ GetJar เลิกใช้คำว่า "app store" และเปลี่ยนไปใช้คำอื่นๆ เช่น "mobile download service" แทน มิฉะนั้นแอปเปิลจะดำเนินการทางกฎหมายต่อ GetJar
ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวบนอินเทอร์เน็ต เป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวเน็ตต้องเจอ ช่วงหลังเราจึงเห็นข่าวองค์กรภาครัฐเริ่มเข้ามากดดันให้บริษัทไอทีต่างๆ ใส่ใจกับเรื่องนี้มากขึ้น
แต่ความเป็นส่วนตัวเป็นแนวคิดที่เข้าใจได้ยาก แถมข้อมูลต่างๆ มักเขียนด้วยภาษากฎหมายที่คนธรรมดาอ่านกันไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก บริษัทหลายแห่งจึงพยายามอธิบายนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวด้วยวิธีใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น Facebook ที่ปรับหน้า Privacy Policy ใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น
วันนี้ Zynga เจ้าพ่อแห่งเกมบนเน็ตได้ก้าวไปอีกขั้น โดยอธิบายเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วยเกมมันเสียเลย และนี่คือ "PrivacyVille"
หนึ่งในนโยบายสุดเจ๋งที่เรียกได้ว่าสร้างความตกตะลึงให้กับวงการ IT ของว่าที่รัฐบาลใหม่โดยพรรคเพื่อไทยนั้น ก็คือ Tablet เพื่อการศึกษา เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องเอามานั่งคิดกันหัวแทบแตกเลยทีเดียว แต่เรื่องที่สำคัญกว่านั้นก็คือ "ใคร?" จะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ให้กับรัฐบาล และความคืบหน้าก็อยู่ที่นี่ครับ
RIAA (สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา) และ MPAA (สมาคมผู้ประกอบกิจการภาพยนตร์ของสหรัฐฯ) ได้ประกาศความร่วมมือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในสหรัฐ ซึ่งได้แก่ AT&T, Verizon, Comcast, Time Warner และ Cablevision เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อผู้ใช้กำลังดาวน์โหลดเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ
เมื่อระบบพบการละเมิดลิขสิทธิจากผู้ใช้ ระบบจะส่งอีเมลแจ้งเตือนไปถึงผู้ใช้โดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นผู้ให้บริการสามารถที่จะเลือกปรับลดความเร็วอินเทอร์เน็ต หรือ redirect หน้าเว็บไปยังเว็บอื่นจนกว่าผู้ใช้จะติดต่อกลับไปหาผู้ให้บริการ แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในยุโรปหลาย ๆ ประเทศก็คือผู้ให้บริการในสหรัฐจะไม่ตัดอินเทอร์เน็ตผู้ใช้
เว็บ 9to5Mac อ้างแหล่งข่าวที่พวกเขาเชื่อถือว่าแอปเปิลจะแตกสินค้าตระกูล iPhone ออกมาเป็นสองรุ่น เช่นเดียวกัน iPad ที่จะมีทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่น HD โดยไอโฟนที่ขายอยู่ปัจจุบันจะกลายเป็นไอโฟนรุ่นที่แพงกว่า ส่วนอีกรุ่นหนึ่งจะเป็นรุ่นที่ถูกกว่า โดยทั้งหมดนี้สามารถทำได้ด้วยการลดสเปคบางอย่าง (ซึ่งในข่าวอ้างการลดสเปคหน้าจอเรติน่า อย่างที่ทำมาแล้วกับ iPod touch) โดยแอปเปิลอาจจะเลือกลดคุณภาพของกล้องถ่ายภาพ ตัด GPS ออก ฯลฯ
จากข่าว Huawei เปิดตัว MediaPad แท็บเล็ต 7 นิ้ว Honeycomb ตัวแรกของโลก ทำให้เรารู้ว่ากูเกิลจะออก Android 3.2 ตามมา ล่าสุดมีข่าวเพิ่มเติมดังนี้
อย่างแรกคือเรื่องเวลา ทีมงานของกูเกิลได้ (เผลอ?) เขียนคอมเมนต์ในรายงานบั๊กตัวหนึ่งของ Android ที่เกี่ยวกับ XOOM ว่าบั๊กตัวนี้จะถูกแก้ใน Android 3.2 ที่จะออกตามมาในไม่กี่วันข้างหน้า ("within days") - Android Central
ส่วนข้อมูลอื่นๆ ที่ลือกันได้แก่
HDMI.org ออกมายอมรับว่ามีคำสั่งให้ผู้ผลิตต้องถอนสายเคเบิลที่ปลายสองข้างเป็น Mini DisplayPort และ HDMI ออกจากตลาดทั้งหมด เนืองจากผิดสัญญาอนุญาตของทาง HDMI.org ที่กำหนดให้สายเคเบิลต้องมีหัวเป็น HDMI ทั้งสองข้าง
สัญญาอนุญาตของ HDMI.org นั้นต้องทำตามเอกสารที่ชื่อว่า Compliance Testing Specification (CTS) แต่เนื่องจากเอกสารฉบับนี้ไม่มีระบุการทดสอบสายเคเบิลที่มีหัวข้างใดข้างหนึ่งเป็นแบบอื่นนอกจาก HDMI เอาไว้ ทำให้ไม่สามารถให้อนุญาตกับสายเหล่านั้นได้
ทางออกในเรื่องนี้คือผู้ผลิตต้องทำ "ตัวแปลง" แทน "สายแปลง" กันต่อไป ส่วนตอนนี้ถ้าใครชอบพกสายมากกว่าตัวแปลงอาจจะต้องรีบไปซื้อมาเก็บไว้
ตามระบบการออกรุ่นแบบใหม่ของ Mozilla หลังจาก Firefox 5 ออกตัวจริง ก็มีผลให้ Firefox รุ่นถัดๆ ไปที่รออยู่ในคิว ขยับสถานะขึ้นตามมา
เมื่อ Firefox 6 ขยับขึ้นมาเป็น Beta ทำให้ Aurora Channel (เทียบได้กับ Alpha) เลื่อน Firefox 7 ขึ้นมา
ของใหม่ในรุ่นนี้คือการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างเข้มข้น โดย Mozilla บอกว่าระยะเวลาในการเรียกโปรแกรมจะลดลง และปรับปรุงเรื่องหน่วยความจำหลายจุด ทำให้ใช้แรมน้อยลง 30% หรือมากกว่านั้น นอกจากนี้รุ่นบนวินโดวส์ยังจะได้ใช้ Direct 2D ช่วยเร่งประสิทธิภาพการวาด Canvas ด้วย
ของใหม่อย่างอื่นคือ Firefox Sync จะซิงก์ข้อมูลทันทีไม่ต้องรอ และปรับปรุงการเรนเดอร์ฟอนต์ให้คมชัดกว่าเดิม
ผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์อีเมลอย่าง Outlook หรือ Thunderbird มาก่อน อาจจะขัดใจอยู่บ้างที่ Gmail นั้น "เรียงอีเมล" ตามลำดับที่เราต้องการไม่ได้ (ทำได้แต่กรองด้วย label)
วันนี้กูเกิลได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์การเรียงอีเมลให้อีก 3 แบบ ได้แก่ แสดงเมลสำคัญ (important) ขึ้นก่อน, แสดงเมลที่ติดดาว, แสดงเมลที่ยังไม่ได้อ่าน
เมื่อรวมกับการเรียงตามลำดับเวลาปกติ และ Priority Inbox (ซึ่งจัดเอาเมลสำคัญ+ติดดาว+ยังไม่ได้อ่าน รวมกันทั้ง 3 แบบ) ก็จะได้ว่า Gmail สามารถเรียงอีเมลได้ทั้งหมด 5 แบบแล้ว
ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในอีกไม่กี่วันนี้
ที่มา - Gmail Blog
ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Microsoft Word ภาคเว็บ (Word Web App) ให้สามารถเขียนเอกสารพร้อมกันหลายคนได้แล้ว
ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ Word Web App ทัดเทียมกับ Google Docs ซึ่งมีฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่แรก (และเป็นจุดขายสำคัญ) แต่กรณีของ Word Web App จะเหนือกว่าตรงที่แชร์เอกสารร่วมกับ Word 2010 และ Word for Mac 2011 ได้ด้วย โดยไฟล์จะเก็บไว้บน SkyDrive
รูปแบบการเขียนพร้อมกันหลายคนของ Word จะใช้วิธี "ล็อค" แต่ละย่อหน้าให้เขียนได้ทีละคน (แต่สามารถเขียนพร้อมกันได้ถ้าเป็นคนละย่อหน้า) แล้วต้องสั่งเซฟเอกสาร ซึ่งจะ refresh ข้อมูลไปในตัว ต่างจากกรณีของ Google Docs ที่เห็นตลอดว่าเพื่อนเราพิมพ์อะไรอยู่
YouTube เริ่มทดลองหน้าเว็บรูปแบบใหม่รหัส "Cosmic Panda" โดยเน้นสีโทนดำมากขึ้น และแสดงภาพ thumbnail ของวิดีโอเป็นแบบ wide แทน
หน้าที่เปลี่ยนโฉมมีทั้งหน้าเล่นวิดีโอแบบปกติ หน้า playlist และหน้า channel
คนที่อยากลองเข้าไปเล่นได้ที่ Cosmic Panda ถ้าไม่ชอบก็เปลี่ยนกลับแบบเดิมได้เสมอ
ที่มา - YouTube Blog
แอปเปิลเผยว่าตัวเลขการโหลดแอพบน App Store ขณะนี้มากกว่า 15,000 ล้านครั้งไปเรียบร้อยแล้ว สถิตินี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดแอพที่พุ่งเร็วมาก เพราะตัวเลข 10,000 ล้านครั้งนั้นเพิ่งประกาศไปเมื่อต้นปีนี้เอง
ปัจจุบัน App Store มีแอพให้เลือกมากกว่า 425,000 แอพ และเป็นแอพสำหรับ iPad โดยเฉพาะมากกว่า 100,000 แอพ แอปเปิลบอกได้จ่ายเงินให้นักพัฒนาไปนับตั้งแต่มี App Store แล้วรวมมากกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์
ที่มา: Business Wire
This is my next ได้รายงานไปในทางเดียวกันกับรายงานก่อนหน้านี้ของ BGR ว่าแอปเปิลกำลังเตรียมที่จะเปิดตัวไอแพ็ดที่มีหน้าจอความละเอียดสูง โดยไอแพ็ดรุ่นดังกล่าวจะขายพร้อม ๆ กับไอแพ็ดรุ่นปกติ โดยจะใช้ชื่อว่า iPad HD โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่ม Professional ที่ทำงานเกี่ยวกับรูปภาพและวีดีโอ
ในรายงานยังได้พูดถึงความเป็นไปได้ของการเปิดตัว Aperture หรือ Final Cut Pro พร้อม ๆ กับ iPad HD อีกด้วย
iPad HD จะเป็นตระกูลสินค้าใหม่แยกต่างหาก โดยแอปเปิลจะยังคงขาย iPad 2 ต่อไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะคล้ายกับการขาย MacBook กับ MacBook Pro ไปพร้อม ๆ กันนั่นเอง
ความคืบหน้าล่าสุดของคดีแอปเปิลฟ้อง Amazon ข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้า "App Store" ซึ่งทาง Amazon สู้ในประเด็นว่า "App Store" เป็นคำทั่วไปที่ใครก็ใช้งานได้
มุมมองของศาลไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของ Amazon เท่าไรนัก (คือมองว่าไม่ใช่คำทั่วไปเสียทีเดียว) แต่ศาลก็เห็นว่าคำอ้างของแอปเปิลว่า Amazon ทำให้ลูกค้าของแอปเปิลสับสนก็ฟังไม่ค่อยขึ้นเช่นกัน (ดูข่าวเก่าประกอบ) ในเบื้องต้น ศาลจึงได้ปฏิเสธคำขอของแอปเปิลที่สั่งให้ Amazon ห้ามใช้เครื่องหมายการค้านี้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะยุติ
ส่วนตัวคดีจริงๆ ศาลนัดไต่สวนอีกทีเดือนตุลาคม 2012 ระหว่างนี้ Amazon ก็สบายไป
เดิมที บริการฝากไฟล์เพลงบนกลุ่มเมฆ Amazon Cloud Drive ให้พื้นที่ฟรี 5GB จากนั้นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อพื้นที่เพิ่ม (เริ่มต้นที่ 20 ดอลลาร์ต่อปี ได้อีก 20GB)
แต่หลังจากคู่แข่งในตลาดเริ่มเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Google Music หรือ iTunes Match ทำให้ Amazon หันมาปรับราคาชั่วคราว โดยเปลี่ยนแพกเพจมาเป็น 20 ดอลลาร์ต่อปี ได้พื้นที่ไม่จำกัด โปรโมชันนี้จำกัดเพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ถ้าใครอยู่ในสหรัฐและมีสิทธิซื้อคงต้องรีบกันหน่อย ส่วนลูกค้าเดิมที่จ่ายเงินไปแล้วจะได้อัพเกรดอัตโนมัติ
ในโอกาสเดียวกับ Amazon ยังเพิ่มหน้าเว็บฟังเพลงจากกลุ่มเมฆ Cloud Player รุ่น iPad อีกด้วย ส่วนรุ่น iPod/iPhone หรือมือถือแพลตฟอร์มอื่นๆ ยังไม่มีความเคลื่อนไหว
ย้ำก่อนว่าข่าวนี้เป็นการคาดเดาล้วนๆ ของนักวิเคราะห์นะครับ
นักวิเคราะห์จากบริษัท FBR Capital Markets ได้พยากรณ์ในรายงานว่าปีนี้แอปเปิลน่าจะออก iPad 2 รุ่นปรับปรุงหรือ "iPad 2 Plus" ให้จอภาพมีความละเอียดสูงขึ้น จากรุ่นปัจจุบันที่มีจำนวนพิกเซล 123 ppi ให้เพิ่มเป็น 250-300 ppi (ถ้าวัดเป็นขนาดพิกเซลน่าจะราว ๆ 2048x1536 ซึ่งเพิ่มจากเดิมด้านละ 2 เท่า)
ตอนนี้ข่าวก็ยังสับสนระหว่างการออก iPad/iPhone รุ่นปรับปรุงเล็กน้อย หรือรุ่นใหม่ไปเลย ข่าวคงสลับไปสลับมาเรื่อยๆ จนกว่าจะเปิดตัวจริงๆ นั่นล่ะครับ ผู้ที่สนใจจะซื้อคงต้องท่องไว้ว่า "ซื้อก่อนใช้ก่อน" ไม่งั้นคงตัดสินใจไม่ได้สักที
ซาโตรุ อิวาตะ ประธานของนินเทนโดตอบคำถามว่า Wii U จะต่อกับทีวี 3 มิติได้หรือไม่ คำตอบก็คือ Wii U สามารถต่อกับทีวีทั่วไปที่มีฟีเจอร์แสดงผล 3 มิติได้แน่นอน
แต่อิวาตะบอกว่าการทำเกม 3 มิติ (หมายถึง 3 มิติแบบเห็นความลึก ไม่ใช่กราฟิกโพลีกอน) ไม่ใช่โฟกัสของ Wii U เหตุเพราะทีวี 3 มิติยังไม่แพร่หลายมากพอนั่นเอง (เหตุผลเดียวกับที่ Wii ไม่รองรับกราฟิกแบบ HD ในช่วงนั้น)
ที่มา - Joystiq
แม้หนังสือชีวประวัติอย่างเป็นทางการของสตีฟ จ็อบส์จะยังไม่วางขาย แต่ล่าสุดได้มีการตัดสินใจเปลี่ยนชื่อหนังสือจากเดิม "iSteve: The Book of Jobs" มาเป็นชื่อสั้นง่าย "Steve Jobs" แล้ว
Walter Isaacson ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้บอกว่าชื่อเดิมนั้นทางสำนักพิมพ์เป็นผู้เลือก ซึ่งคนใกล้ตัวเขาให้ความเห็นว่าชื่อ iSteve มันฟังดูน่ารักเกินไป เขาจึงมองหาชื่อใหม่ที่เรียบหรูดูง่ายกว่านี้ จึงออกมาเป็นชื่อสั้นๆ ว่า "Steve Jobs"
หนังสือจะเริ่มวางจำหน่าย 6 มีนาคม 2012 นี้
ที่มา: CNN Money
ประเด็นเรื่อง Mark Zuckerberg กับ Google+ ยังเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในงานแถลงข่าว Facebook Video Call ก็มี "ผู้กล้า" ลุกขึ้นถาม Zuckerberg ในเรื่องนี้
คนที่ถามเรื่องนี้คือ Ben Parr จากเว็บไซต์ Mashable คำถามของเขามีสองข้อ ข้อแรกคือ Facebook จะมี Group Video Call แบบเดียวกับ Hangouts หรือไม่ และข้อที่สอง Zuckerberg คิดยังไงกับ Hangouts
ประเด็นเรื่องสิทธิบัตร Android ที่ไมโครซอฟท์ "ขู่-ฟ้อง-คิดเงิน" บริษัทฮาร์ดแวร์หลายแห่งเริ่มขยายขนาดไปเรื่อยๆ ล่าสุดมันมาถึงซัมซุงแล้ว (ซึ่งซัมซุงก็เผชิญศึกสิทธิบัตรกับแอปเปิลอยู่อีกทาง)
ข่าวนี้ยังไม่เป็นทางการ ต้นทางมาจากหนังสือพิมพ์ Maeil Business ของเกาหลีใต้ ระบุว่าไมโครซอฟท์ได้เรียกร้องให้ซัมซุงยอมจ่ายค่าสิทธิบัตรเป็นเงิน 15 ดอลลาร์ต่อมือถือ Android หนึ่งเครื่องที่ขายออกไป ส่วนซัมซุงเองก็พยายามต่อรองมาเหลือ 10 ดอลลาร์ต่อเครื่อง แลกกับแรงสนับสนุน Windows Phone ให้ไมโครซอฟท์
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง ถือว่าตัวเลข 15 ดอลลาร์ค่อนข้างแพงทีเดียว เพราะกรณีของ HTC มีข่าวออกมาว่าเครื่องละ 5 ดอลลาร์
กูเกิลเพิ่งออกเครื่องมือพัฒนา ADT (Android Developer Tools) รุ่น 11 ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม วันนี้ออกรุ่น 12 ตามมาแล้ว
ของใหม่ใน ADT 12.0.0 คือการปรับปรุง Visual Layout Editor ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นที่แล้ว และเพิ่มตัวเลือกในการสั่ง build ให้ไม่ต้องทำแพกเกจ .apk ใหม่ทุกครั้ง (ในบางกรณีที่ต้องการทดสอบ) ช่วยให้ระยะเวลา build ลดลงมากในโครงการใหญ่ๆ - รายการเปลี่ยนแปลง
ที่ออกมาคู่กับ ADT ก็คือ Android SDK Tools r12 ซึ่งปรับปรุงให้ emulator สามารถใช้ system image ของสถาปัตยกรรม ARM v7 และ x86 ได้ ทั้งสองตัวติดตั้งได้ผ่าน Android SDK Manager ครับ
ใครที่มีอายุหน่อยคงจำการ์ดจอยี่ห้อ S3 กันได้ (ไม่ว่าจะเป็น S3 รุ่นตัวเลข, S3 Trio, S3 Vision, S3 Virge, Savage 3D) ชะตากรรมหลังจากนั้นของ S3 คือพ่ายศึกการ์ดจอที่รบกันดุเดือด จนต้องขายฝ่ายกราฟิกให้ VIA และแยกบริษัทไปทำอุปกรณ์บันเทิงต่างๆ ในชื่อ SONICblue ก่อนจะล้มละลายไป
ช่วงหลังมานี้ S3 หากินโดยขายสิทธิบัตรด้านกราฟิกเป็นหลัก ตัวอย่างลูกค้าได้แก่ นินเทนโด ที่ซื้อสิทธิบัตรไปใช้ในเครื่องเล่นเกมของตัวเอง แถม S3 ยังเคยฟ้องชนะแอปเปิลเรื่องสิทธิบัตรการบีบอัดภาพอีกด้วย