ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Nissan, Mecedes-Benz ไปจนถึงผู้ให้บริการเรียกรถอย่าง Lyft กำลังเริ่มพัฒนาระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่ฝั่งของ Ford นั้น บริษัทยังคงจะไม่ทิ้งพลังงานฟอสซิลเสียทีเดียว ล่าสุด Jim Farlehy ประธานฝ่ายการตลาดโลกของ Ford ให้สัมภาษณ์กับ Automotive News ว่ารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Ford ที่วางแผนจะวางจำหน่ายในปี 2021 จะเป็นรถยนต์ไฮบริด
การพัฒนาชิพสำหรับประมวลผล AI นั้นถือเป็นสิ่งที่หลายบริษัทในปัจจุบันเริ่มหันมาสนใจทำกัน เพื่อประสิทธิภาพในการประมวลผลงานเฉพาะของตัวเอง Tesla ก็ด้วยเช่นกัน โดยสำนักข่าวทั้ง The Register และ CNBC รายงานว่าซีอีโอ Elon Musk นั้นเตรียมการพูดคุยถึงการพัฒนาชิพ AI ใช้ในบริษัทเองในงาน NIPS ซึ่งเป็นงานสัมมนาด้าน machine learning
Musk กล่าวในงานไว้อย่างชัดเจนว่า “ผมต้องการพูดให้ชัดเจนว่า Tesla นั้นจริงจังกับ AI ทั้งฝั่งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เรากำลังพัฒนาชิพ AI แบบเฉพาะทาง”
Lyft ผู้ให้บริการ Ride-Hailing คู่แข่ง Uber ในสหรัฐเริ่มนำรถยนต์ไร้คนขับมาทดสอบให้บริการแล้ว โดยเริ่มเฉพาะในเขต Seaport ของเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ก่อน โดยรถไร้คนขับเป็นของบริษัท NuTonomy ที่ถูก Delphi ซื้อไป ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการประกาศความร่วมมือระหว่างสองบริษัทไปกลายๆ
ในส่วนของจำนวนรถไม่มีการเปิดเผยว่ามีทั้งหมดกี่คัน ขณะที่ผู้ใช้ Lyft ที่ใช้แอปในย่าน Seaport จะมีโอกาสได้นั่งรถไร้คนขับแบบสุ่ม โดยจะมีวิศวกรนั่งอยู่หลังพวงมาลัยด้วย ทั้งนี้นอกจาก NuTonomy แล้ว Lyft ได้จับมือกับ Ford ในลักษณะนี้ด้วย
เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีข่าวรถอัตโนมัติ Arma เริ่มรับส่งผู้โดยสารหลังจากทดสอบวิ่งบนถนนมาเกือบปี (และดันมีอุบัติเหตุชนในวันแรก) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมก็ได้ไปร่วมงาน AWS re:Invent ที่ลาสเวกัสที่จัดงานอยู่ใกล้ๆ เมือง Fremont ที่ทดสอบรถ Arma นี้พอดี จึงมีโอกาสไปลองนั่งด้วยตัวเอง
GM ประกาศแผนการให้บริการรถไร้คนขับที่กำลังพัฒนาอยู่ขณะนี้ ว่าจะเริ่มให้บริการรับส่งคนตามใจกลางเมืองต่างๆ ภายในปี 2019 เพื่อรีบชิงตลาดก่อนคู่แข่งอย่าง Waymo หากยังสามารถพัฒนาได้ในอัตราความเร็ว ณ ปัจจุบัน
Chuck Steven CFO ของ GM ประเมิณว่าธุรกิจรถไร้คนขับของบริษัทในระยะยาว มีแนวโน้มจะทำเงินและทำกำไรให้บริษัทมากกว่าธุรกิจหลักในปัจจุบันเสียอีก ซึ่ง Steven ก็ระบุว่ารถไร้คนขับ 1 คันน่าจะสร้างรายได้ให้บริษัทหลายแสนเหรียญสหรัฐ เทียบกับรถยนต์ 1 คันในปัจจุบันที่ GM ได้เงินไปเพียงราว 3 หมื่นเหรียญ
Waymo บริษัทรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติภายใต้ Alphabet ประกาศความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติว่า ตอนนี้กลุ่มรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Waymo สามารถวิ่งออกบนถนนสาธารณะได้ครบถึง 4 ล้านไมล์แล้ว โดยสามารถเก็บข้อมูลเพื่อการนำมาพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้เป็นอย่างดี
ในโอกาสนี้ Waymo ได้เผยสถิติของรถยนต์ไร้คนขับของตนเองดังนี้ คือ
กระทรวงคมนาคมและขนส่งของไต้หวันประกาศว่า จะประกาศใช้กฎหมายที่อนุญาตให้รถไร้คนขับมาวิ่งบนท้องถนนให้ได้ภายในสิ้นปี รวมถึงแก้ไขคำจำกัดความว่าด้วย "รถยนต์" ในกฎหมายฉบับความปลอดภัยบนท้องถนนภายในกรอบเวลาเดียวกันด้วย
จากร่างกฎหมายที่ถูกเปิดเผยออกมาระบุให้ รถที่จะยื่นขออนุญาตเพื่อทดสอบบนท้องถนนจะต้องมีเทคโนโลยีขับอัตโนมัติระดับ 3 ตามมาตรฐานของ Society of Automotive Engineers International (SAE International) รวมไปถึงต้องมีคนนั่งอยู่หลังพวงมาลัยด้วยอย่างน้อย 1 คน และกรณีที่เป็นรถบัสไร้คนขับก็จะต้องมีประกันด้วย
สัปดาห์หน้าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้เพิ่มเติม อย่างเรื่องของประกันภัย, เวลาและสถานที่ที่จะอนุญาตให้ทดสอบวิ่งรถไร้คนขับ เป็นต้น
Uber ได้สั่งซื้อรถยนต์จาก Volvo รุ่น XC90 ที่ราคา 46,900 ดอลลาร์ต่อคัน เป็นจำนวนกว่า 24,000 คัน เพื่อนำมาใช้กับโครงการรถยนต์ไร้คนขับ
รถยนต์ที่ Uber สั่งซื้อมานี้ จะทยอยส่งมอบตั้งแต่ปี 2019 จนถึง 2021 ซึ่ง Uber จะเพิ่มเซนเซอร์และซอฟต์แวร์เข้าไปในตัวรถเพื่อให้ใช้งานการขับเคลื่อนอัตโนมัติได้ โดยก่อนหน้านี้ทาง Uber ได้เริ่มทดสอบด้วย XC90 จำนวน 100 คันใน Pittsburgh ไปแล้ว
Jaguar Land Rover ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากอังกฤษ ได้เริ่มทดสอบระบบรถยนต์ไร้คนขับครั้งแรกบนถนนสาธารณะ เพื่อให้เข้าใจถึงการตอบสนองกับรถยนต์คันอื่นและโครงสร้างพื้นฐานบนถนนให้มากยิ่งขึ้น และโมเดลที่พัฒนาขึ้นมาสามารถทำพฤติกรรมขณะขับรถยนต์เหมือนกับมนุษย์หรือไม่อย่างไร
รถยนต์ที่ใช้ทดสอบนี้มีเซนเซอร์จำนวนมากเพื่อรับข้อมูล อย่างเช่น การจราจร, คนเดินเท้า และสัญญาณต่าง ๆ โดยการรับข้อมูลจากเซนเซอร์จำนวนมากนี้และค้นหาหนทางในการจัดการกับข้อมูล จะทำให้มีความเข้าใจในทางเทคนิคมากขึ้น เพื่อใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้สำหรับใช้งานจริงต่อไป โดยการทดสอบนี้จะมีคนคอยควบคุมและแก้สถานการณ์เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ
หากใครติดตามข่าวเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับอยู่เนืองๆ น่าจะพอเห็นภาพรวมความคืบหน้าในแง่ของความพร้อมของผู้พัฒนารถยนต์ไร้คนขับหลายๆ เจ้า โดยมี Waymo ในเครือ Alphabet เป็นหนึ่งในบริษัทที่เรียกได้ว่าเทคโนโลยีน่าจะล้ำหน้าที่สุดแล้ว
อย่างล่าสุด Waymo ได้เริ่มนำไร้คนขับมาทดสอบวิ่งโดยไม่มีคนนั่งหลังพวงมาลัยแล้ว โดยจะเปิดให้ผู้เข้าร่วมโปรแกรม Early Rider ทดสอบเร็วๆ นี้ด้วย และแน่นอนว่าด้วยความพร้อมระดับนี้ Alphabet เองเตรียมหารายได้จากรถยนต์ไร้คนขับแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า John Krafick ซีอีโอของ Waymo ถูก Sergey Brin ประธานและ Larry Page ซีอีโอ Alphabet บีบเรื่องการหารายได้นี้ด้วย
Arma รถชัทเทิลบัสไร้คนขับพลังงานไฟฟ้าที่เริ่มทดสอบวิ่งรับส่งคนในลาส เวกัสเป็นครั้งแรก กลับประสบอุบัติเหตุหลังออกวิ่งเพียงชั่วโมงเดียว โดยชนเข้ากับด้านหน้าของรถบรรทุกที่มีคนขับ
โฆษกของ AAA บริษัทที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้และเข้ามาทำแบบสำรวจทัศนคติของคนขับรถต่อรถไร้คนขับ ยืนยันว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นความผิดของคนขับรถบรรทุก โดยเทศบาลของเมืองลาส เวกัสโพสต์บนเพจ Tumblr อธิบายรายละเอียดว่ารถ Arma หยุดก่อนแล้ว หลังเซ็นเซอร์ตรวจจับรถบรรทุกที่วิ่งเข้ามาหาและแจ้งเตือนไปยังระบบของรถชัทเทิล ทว่าเป็นรถบรรทุกเองที่ขับเข้ามาชน
ต้นปีที่ผ่านมามีข่าวทางการเมืองลาส เวกัสทดสอบวิ่ง Arma รถชัทเทิลไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ ผ่านที่พัฒนาโดย Navya บริษัทจากฝรั่งเศสมาเกือบปี ล่าสุด Arma เตรียมรับส่งผู้โดยสารในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองแล้ว
Arma สามารถรองรับผู้โดยสารได้ราว 12 คนต่อรอบ โดยการวิ่งรับส่งนี้จะวิ่งเป็นลูปราว 0.6 ไมล์ (0.96 กิโลเมตร) และมีจุดจอดรับส่งทั้หมด 3 จุดบนถนน Fremont และ Carson ขณะที่ตัวรถนอกจากจะใช้กล้อง, GPS และเซ็นเซอร์ LIDAR แล้วยังมีเทคโนโลยี V2I (Vehicle-to-Infrastrucutre) สำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างตัวรถและเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ตามถนนในเวกัส
บริษัทเทคโนโลยีของจีนตอนนี้มีเพียง Baidu เจ้าเดียวที่ประกาศชัดเจนเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ แต่ล่าสุดบริษัทด้านเกมและโซเชียลอย่าง Tencent ก็ดูเหมือนจะสนใจด้านนี้อยู่ด้วย โดยตอนนี้มีเทคโนโลยีเวอร์ชันโปรโตไทป์และเริ่มทดสอบเป็นการภายในไปบ้างแล้ว จากการเปิดเผยของ Bloomberg
ในแง่ของเทคโนโลยี AI ทาง Tencent เองก็มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยอาจจะเน้นไปที่ AI ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ใช้งานแอปบางประเภทเป็นหลัก ทว่า Ma Huateng ประธานของ Tencent ก็เคยบอกว่าบริษัทก็อยากจะขยายขอบเขตของ AI ไปยังฟิลด์อื่นๆ อย่างรถไร้คนขับหรือการบริการด้านสาธารณสุขแบบออนไลน์ด้วย
Waymo บริษัทลูกในเครือ Alphabet ที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับตอนนี้ปักหลักทดสอบตัวรถอยู่ในเมือง Phoenix รัฐแอริโซนา ได้เริ่มนำรถไร้คนขับมาทดสอบวิ่งบนถนนโดยไม่มีคนนั่งหลังพวงมาลัยเป็นครั้งแรกแล้ว
ก่อนหน้านี้ทั้ง Waymo และเจ้าอื่นๆ ที่นำรถมาทดสอบวิ่งจะต้องมีวิศวกรอย่างน้อย 1 คนนั่งอยู่หลังพวงมาลัย แต่ล่าสุด Waymo มั่นใจในเทคโนโลยีตัวเองเพียงพอที่จะประกาศว่ารถไร้คนขับที่ออกไปทดสอบวิ่งบนท้องถนนตอนนี้ไม่มีคนนั่งอยู่หลังพวงมาลัยแล้ว (เบื้องต้นย้ายไปนั่งเบาะหลังแทน) โดยการทดสอบวิ่งครั้งนี้จำกัดเฉพาะในพื้นที่ย่าน Chandler ชานเมืองของ Phoenix
ใกล้ความจริงเข้ามาเรื่อยๆ กับบริการเรียกรถยนต์ไร้คนขับของ Waymo บริษัทลูกของ Alphabet
ก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าว Waymo เซ็นสัญญากับบริษัทรถเช่า AVIS เพื่อซ่อมบำรุงรถยนต์ไร้คนขับ ล่าสุด Waymo เซ็นสัญญาลักษณะเดียวกันกับ AutoNation ดีลเลอร์รถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐ ที่มีศูนย์ขายรถยนต์หลากหลายแบรนด์กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ
ภายใต้สัญญานี้ AutoNation จะรับหน้าที่ซ่อมบำรุงรถยนต์ของ Waymo (ปัจจุบันใช้ Chrysler Pacifica แต่อนาคตก็จะมีรุ่นอื่น)
วันนี้ที่งานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2017 นิสสันได้ใช้เวทีเปิดตัวรถยนต์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นใหม่ในชื่อ IMx โดยนิสสันระบุว่าใช้มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีกำลังรวม 320 กิโลวัตต์ แรงบิด 700 นิวตันเมตร ส่วนแบตเตอรี่ก็ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด จึงทำให้นอกจากจะรองรับมอเตอร์กำลังสูง ยังสามารถทำให้รถวิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 600 กิโลเมตรอีกด้วย
ส่วนฟีเจอร์ภายในรถก็แน่นอนว่ายังคงคอนเซ็ปต์ Nissan Intelligent Mobility โดยนิสสันได้ใส่เทคโนโลยี ProPILOT เวอร์ชันใหม่เข้ามา เพื่อรองรับการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เมื่อระบบทำงาน รถจะพับพวงมาลัยเก็บไปในแดชบอร์ดพร้อมเอนเบาะ ทำให้ผู้ขับขี่มีพื้นที่มากขึ้น
โซนีออกมาประกาศว่ากำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าโค้ดเนม SC-1 ที่สามารถควบควมจากระยะไกลได้โดยอาศัยเซ็นเซอร์ 5 ตัวและกล้อง 360 องศา ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์สำหรับแยกแยะคนเดินผ่านรถ เพื่อจุดประสงค์ด้านโฆษณา
SC-1 มีความยาวประมาณ 3 เมตร สูงราว 2 เมตร จุผู้โดยสารได้ราว 3 คนเท่านั้น ซึ่งโซนีบอกว่ารถคันนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการวิ่งบนท้องถนนทั่วไป แต่อาจใช้ขนส่งภายในสถานที่ต่างๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า, สนามบินหรือสนามกอล์ฟ
ถึงแม้จะถูกควบคุมผ่านทางไกลแต่ SC-1 สามารถควบคุมได้จากภายในโดยจะมีคอนโทรลเลอร์และหน้าจอมาให้ด้วย โดยรถรุ่นโปรโตไทป์กำลังถูกทดสอบอยู่ใน Okinawa Institute of Science and Technology Graduate University และโซนีก็ปฏิเสธจะให้ข้อมูลเรื่องกรอบเวลาที่จะเปิดให้ใช้งานจริง
Delphi บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลก ประกาศเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ NuTonomy ด้วยมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน NuTonomy มีแท็กซี่ไร้คนขับวิ่งให้บริการในสิงคโปร์ และได้รับใบอนุญาตให้ทดสอบในบอสตัน
Glen De Vos ซีทีโอ Delphi กล่าวว่าบริษัทเล็งเห็นโอกาสในรถยนต์ไร้คนขับ โดยเริ่มต้นที่บริการรถสาธารณะก่อน ซึ่งการซื้อกิจการ NuTonomy นี้จะช่วยให้บริษัทต่อยอดขยายธุรกิจได้รวดเร็วมากขึ้น จากสิทธิบัตรและทีมวิศวกร
สตาร์ตอัพรถยนต์ไร้คนขับ Cruise Automation บริษัทลูกของค่ายรถยักษ์ใหญ่ General Motors (GM) เตรียมทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในรัฐนิวยอร์กช่วงต้นปี 2018
การทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในสหรัฐ ขึ้นกับกฎระเบียบของแต่ละรัฐที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้ Audi เคยทดสอบรถยนต์ในนิวยอร์กไปในเดือนมิถุนายน แต่กรณีของ Cruise ถือเป็นบริษัทแรกที่ได้ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในย่านแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นย่านที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด และเป็นสัญลักษณ์ของระบบทุนนิยมโลกด้วย
การทดสอบจะยังมีวิศวกรของ Cruise นั่งอยู่บนที่นั่งคนขับตลอดเวลา ตอนนี้ทีมงาน Cruise เริ่มการสร้างแผนที่ของพื้นที่ทดสอบแล้ว
อินเทลและ Mobileye บริษัทลูกของอินเทลเองเสนอโมเดล Responsibility Sensitive Safety (RSS) สำหรับกำหนดค่าความเร็วหรือระยะห่างในภาวะการขับขี่ต่างๆ ที่รถไร้คนขับจะสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย
ปัญหาใหญ่ของการอนุญาตให้รถไร้คนขับสามารถทำงานได้โดยไม่มีคนขับนั่งรับผิดชอบอยู่หลังพวงมาลัยคือการรับผิดชอบเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น และเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง คนโดยทั่วไปมักไม่ไว้ใจระบบอัตโนมัติแม้ว่าการทำงานโดยเฉลี่ยจะปลอดภัยกว่ามนุษย์มากแล้วก็ตาม
ปีที่แล้ว Cyanogen Inc. เจ้าของรอมโอเพนซอส CyanogenMod ประสบปัญหาภายในครั้งใหญ่ ผู้บริหารลาออก ทีมงานวงแตก จนสุดท้าย ทีม CyanogenMod แยกตัวไปทำ LineageOS ก่อนที่ข่าวคราวของ Cyanogen Inc. จะเงียบหายไปค่อนปี
ล่าสุดที่ Cyanogen Inc. หายหน้าไปเหมือนจะหายไปชุบตัวก่อนที่จะกลับมาในชื่อใหม่ Cyngn โดยซีอีโอยังเป็น Lior Tal คนเดิม พร้อมเปลี่ยนทิศทางและวิสัยทัศน์ของบริษัทแบบหันหัวเรือ จากที่ทำรอมโอเพนซอส คราวนี้บริษัทตั้งใจจะพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับ โดยได้ทีมงานและผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทรถยนต์มาร่วมทีมบ้างแล้ว ขณะเดียวกันก็กำลังประกาศหางานในหลายตำแหน่งด้วย
NVIDIA ประกาศเปิดตัว Pegasus แพลตฟอร์มประมวลผลในกลุ่ม Drive PX 2 ซึ่งรองรับพลังประมวงลผลของรถยนต์ไร้คนขับระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ที่ตัวรถสามารถขับเคลื่อนได้ในทุกสภาพถนนสภาพอากาศ คนขับไม่จำเป็นต้องสนใจถนนเลย
NVIDIA ระบุว่าพลังในการประมวลผลของ Pegasus อยู่ที่ 320 ล้านล้านครั้งต่อวินาที เทียบเท่าดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเซิร์ฟเวอร์ 100 ตัว ในฟอร์มแฟ็คเตอร์ขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยลดการใช้พื้นที่สำหรับการติดตั้งฮาร์ดแวร์ประมวลผลบนรถไร้คนขับลง (หนึ่งในเหตุผลที่รถไร้คนขับที่วิ่งทดสอบในปัจจุบันเป็น SUV ก็เพราะฮาร์ดแวร์เหล่านี้กินพื้นที่บนรถ)
John Krafcik ซีอีโอของ Waymo โพสต์บน Medium ถึงแคมเปญใหม่ของบริษัทที่ชื่อว่า 'Let's Talk Self-Driving Cars' ร่วมกับองค์กรและมูลนิธิท้องถิ่นทั้ง Mothers Against Drunk Driving, National Safety Council, Foundation for Blind Children, Foundation for Senior Living และ East Valley Partnership เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจเรื่องรถไร้คนขับให้คนทั่วไปมากขึ้น
ซึ่งสปอนเซอร์ของแคมเปญอย่างมูลนิธิและองค์กรที่เข้าร่วมข้างต้น ล้วนช่วยตอกย้ำแง่มุมต่างๆ ของรถไร้คนขับที่ Waymo ต้องการจะสื่อ ทั้งการช่วยลดอุบัติเหตุจากการเมาและขับ (Mothers Against Drunk Driving), ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน (National Safety Council) และปลอดภัยพอและเป็นทางเลือกในการเดินทางสำหรับผู้สูงอายุและคนตาบอด (Foundation for Senior Living และ Foundation for Blind Children)
General Motors ประกาศการควบรวบรวมสตาร์ทอัพ Strobe เจ้าของเทคโนโลยีด้านการประมวลผลภาพจากเลเซอร์มาอยู่ภายใต้ Cruise Automation บริษัทลูกที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับ
know-how ของ Strobe จะช่วยผลักดันการพัฒนาเซ็นเซอร์ LIDAR สำหรับรถยนต์ไร้คนขับของ GM ให้มากขึ้น โดยรายละเอียดของดีลนี้ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมา ทั้งนี้ Strobe เพิ่งก่อตั้งเมื่อ 2014 มีพนักงานไม่ถึง 15 คน เป็นสตาร์ทอัพที่แยกตัวออกมาจากบริษัท OEwaves ซึ่งเป็นบริษัทขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการเห็นภาพ (Imaging Products) ในอุตสาหกรรมด้านการทหาร
ที่มา - New York Times
The Information ได้พูดคุยกับพนักงานภายในของ Waymo บริษัทลูกของ Alphabet ที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งมีการเปิดเผยว่าบริษัท มีแผนจะทดสอบบริการเรียกรถหรือ Ride-Hailing ของตัวเองโดยนำรถไร้คนขับมาให้บริการ
ทาง Waymo เล็งจะเปิดให้บริการ Ride-Hailing ในเมือง Phoenix รัฐแอริโซนาให้ได้เร็วที่สุดที่เป็นไปได้ หลังจากเคยทดสอบผ่านโปรแกรม Early Ride Program