Proton VPN เพิ่มฟีเจอร์ที่น่าสนใจให้แอพเวอร์ชัน Android คือสามารถเปลี่ยนชื่อและไอคอนของแอพ Proton VPN ให้ดูเหมือนแอพทั่วๆ ไป เช่น Weather, Notes, Calculator ได้ด้วย

ทีมพัฒนา Proton VPN บอกว่าถึงแม้ตัวแอพช่วยหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์ได้ก็จริง แต่ในบางประเทศ ตำรวจหรือทหารอาจนำมือถือของประชาชนมาตรวจสอบ และถ้าพบว่ามีแอพกลุ่ม VPN ก็อาจมีความผิดได้ ทางทีมพัฒนาจึงออกแบบฟีเจอร์นี้มาช่วยให้ผู้ใช้ Proton VPN มีโอกาสหลบเลี่ยงการถูกค้นมือถือแล้วพบสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศนั้นๆ ได้มากขึ้น (ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะ Android เพราะบน iOS เปลี่ยนไอคอนไม่ได้)

Oppo อ้างรายงานส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนไทยประจำไตรมาส 2/2024 ของบริษัทวิจัยตลาด Canalys ประกาศว่าตัวเองขึ้นเป็นผู้ขายสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของไทยแล้ว มีส่วนแบ่งตลาด 20% แซงหน้าแชมป์เดิมอย่างซัมซุง ที่มีส่วนแบ่งตลาด 19% แบบฉิวเฉียด

อันดับ 3-5 ยังคงเดิมคือ Xiaomi 15%, Apple 14% และ Vivo 13% โดยผู้เล่นในกลุ่ม Top 5 ทุกรายมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีเพิ่มขึ้น ยกเว้นซัมซุงที่อัตราเติบโตลดลง 4%

ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์ Oppo Thailand

Instagram ประกาศว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แพลตฟอร์มจะเปลี่ยนตัววัดผลหลัก (Primary Metric) มาเป็นยอดวิว (Views) มีผลกับโพสต์ทุกฟอร์แมต ซึ่งจะใช้ตัววัดผลเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Reels, สตอรี, รูปภาพ หรืออื่น ๆ

Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram อธิบายเพิ่มเติมว่าที่ผ่านมา Reels จะมีตัววัดผลประสิทธิภาพของโพสต์ที่ต่างจากโพสต์ประเภทอื่น แนวทางใหม่นี้ทำให้ครีเอเตอร์ที่ผลิตเนื้อหาเข้าใจผลตอบรับง่ายขึ้น โดยไม่ต้องแยกพิจารณาในประเด็นฟอร์แมตของโพสต์นั้น

สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือแล็บท็อปที่คุณกำลังใช้อ่านโพสต์นี้อยู่ คุณคิดว่าคุณเป็นเจ้าของมันจริงๆ “มีสิทธิเต็มรูปแบบ” กับมันอยู่ใช่ไหม ถ้าผมบอกว่า คุณไม่ได้เป็นเจ้าของมัน 100% โดยที่คุณไม่รู้ตัว หรืออาจจะรู้แต่ยังไม่เดือดร้อนกับมันล่ะ

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แนวคิดในการทำธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ความอิสระหรือสิทธิ์ต่างๆ ที่เรามีกับอุปกรณือิเล็กทรอนิคส์ต่างๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ จนเราถูกห้าม หรือแม้กระทั่งถูกลงโทษ เพียงแค่ต้องการบำรุงรักษาหรือซ่อมอุปกรณ์เหล่านั้น ใกล้ตัวเราที่สุดอาจจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือแล็บท็อปนี่แหละ

หลายประเทศทั่วโลกทั้งฝั่งผู้บริโภคและภาครัฐ มีความพยายามผลักดันและสู้กลับเรื่องนี้ หลายๆ ประเทศมีกฎหมาย Rights to Repair ออกมาแล้ว เช่นอังกฤษ สหรัฐ และสหภาพยุโรป

แล้วประเทศไทย ควรผลักดันเรื่องนี้เป็นประเด็นสาธารณะ จนนำไปสู่กระบวนการออกกฎหมายได้หรือยัง?

PC Gamer รายงานว่าผู้ผลิตเมนบอร์ดบางราย เช่น MSI และ Asus เริ่มปล่อยอัพเดต BIOS ที่มี microcode แก้ปัญหาซีพียู Intel Core 13th/14th Gen ให้ลูกค้าแล้ว

เมนบอร์ดเหล่านี้ใช้ชิปเซ็ต Intel ซีรีส์ 600 และ 700 โดยเป็น BIOS เวอร์ชัน 0x129 ที่ใหม่กว่าเวอร์ชัน 0x125 ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้

รายชื่อเมนบอร์ดที่ประกาศบนหน้าเว็บของ MSI แล้วคือ

อินเทลรายงานความก้าวหน้าของกระบวนการผลิตขนาด 18A ซึ่งเริ่มทดสอบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าชิปสองตระกูลหลักของอินเทลคือ Panther Lake สำหรับกลุ่ม AI PC และ Clearwater Forest สำหรับเซิร์ฟเวอร์ จะเริ่มผลิตจริงต้นปี 2025 และมีสินค้าขายภายในครึ่งแรกของปี 2025 ตามที่บริษัทเคยประกาศแผนก่อนหน้านี้

อินเทลยังเผยแพร่ 18A Process Design Kit (PDK) เครื่องมือสำหรับการออกแบบชิป เพื่อให้ลูกค้า Intel Foundry สามารถนำไปใช้ในการออกแบบชิป ตามกระบวนการผลิต 18A ซึ่งใช้การจ่ายกระแสไฟฟ้าของทรานซิสเตอร์แบบใหม่คือ RibbonFET และ PowerVia

Humane สตาร์ทผู้พัฒนาอุปกรณ์ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ AI Pin อาจยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยมีรายงานจาก The Verge ซึ่งอ้างเอกสารภายในเกี่ยวกับยอดขายและยอดคืนสินค้า พบว่าตัวเลขเมื่อเดือนมิถุนายน หลังจากสินค้าเริ่มจัดส่งในเดือนเมษายน มีจำนวนคนที่มีอุปกรณ์นี้อยู่ประมาณ 8,000 ชิ้น แต่ตัวเลขล่าสุดในเดือนสิงหาคม มีคนที่ยังมีอุปกรณ์นี้เหลืออยู่ 7,000 ชิ้น เนื่องจากมีการขอคืนสินค้า เท่ากับว่าแม้ช่วงที่ผ่านมา AI Pin อาจขายเพิ่มเติมได้บ้าง แต่จำนวนการคืนสินค้ามีมากกว่ามาก

Automattic บริษัทแม่ของ WordPress.com เปิดตัวเครื่องมือ Write Brief with AI เป็นการนำ AI มาช่วยปรับสำนวนการเขียนบล็อกของเราให้สั้นกระชับมากขึ้น

รูปแบบการใช้งานคือใช้ AI ให้อ่านเนื้อหาที่เราเขียน แล้วให้คะแนน "ความอ่านง่าย" พร้อมแนะนำจุดที่ควรปรับปรุง เช่น การเลือกใช้คำที่ซับซ้อนเกินไป การแต่งประโยคที่ยาวเกินไป หรือการเลือกใช้คำที่ไม่มีความหมายชัดเจน แสดงถึงความไม่มั่นใจของผู้เขียน (เช่น may / could / might / possibly) เราสามารถเลือกประโยคที่ขีดเส้นใต้เพื่อให้ AI ช่วยแนะนำได้ว่าควรแก้อย่างไร

จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ล่าสุดของ บช.สอท. ระหว่างเดือน มีนาคม 2565 - มิถุนายน 2567 เผยให้เห็นข้อมูลน่าสนใจคือ คนไทยตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพมากกว่า 575,500 คดี

มูลค่าความเสียหายสะสมกว่า 65,715 ล้านบาท หรือเฉลี่ยมูลค่าความเสียหายวันละ 80 ล้านบาท 64% เกิดขึ้นกับกลุ่มเพศหญิงวัยทำงานตอนกลางจนถึงวัยสูงอายุ ตั้งแต่อายุ 30 - 60 ปีขึ้นไป สูงถึงกว่า 248,800 คดี

Infineon บริษัทชิปจากเยอรมนีเปิดโรงานล่าสุด Kulim เน้นการผลิตชิปด้านพลังงานและยานยนตร์ โรงงานนี้เป็นโมดูลที่สองและมีแผนการสร้างโมดูลที่สามต่อไปทันที เมื่อเสร็จทั้งหมดจะทำให้โรงงานแห่งนี้กลายเป็นโรงงานชิปแบบเวเฟอร์ขนาด 200mm ใหญ่ที่สุดในโลก

โรงงานแห่งนี้จะผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี wide-bandgap (WBG) โดยใช้ Silicon Carbide (SiC) และ Galium Nitride (GaN) เป็นวัสดุหลัก

การขยายโรงงานครั้งนี้อาศัยการยืนยันคำสั่งซื้อล่วงหน้าจากลูกค้าของ Infineon รวมมูลค่า 5,000 ล้านยูโร โดยจ่ายเงินมาก่อนแล้วพันล้านยูโร คาดว่าจะผลิตคืนได้ครบภายในปี 2030 ส่วนโรงงานเฟสสองจะใช้เวลาก่อสร้างอีก 5 ปี

เรื่องนี้ไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการโดย 9to5Mac พบว่า Apple USB SuperDrive อุปกรณ์อ่านเขียน CD และ DVD แบบเชื่อมต่อภายนอก ได้ขึ้นสถานะสินค้าใน Apple Store ออนไลน์ว่าสินค้าหมด (Sold Out) และไม่ได้ระบุว่าจะมีสินค้ามาขายอีกในอนาคตหรือไม่ ทั้งนี้สโตร์ในอเมริกาและไทยขึ้นสถานะของหมดแล้ว แต่ในสหราชอาณาจักรยังมีขายอยู่

Apple USB SuperDrive เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับอ่านเขียน CD/DVD ที่เปิดตัวพร้อมกับ MacBook Air รุ่นแรกในปี 2008 ซึ่งเป็น MacBook รุ่นแรกที่ตัดช่องซีดีออกไป เชื่อมต่อด้วย USB-A ทำให้ต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงกับ USB-C หากต้องการใช้งานกับ MacBook รุ่นใหม่ ๆ ราคาขายในไทย 2,290 บาท

Youtube เริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเพิ่มโน้ตหากวิดีโอมีการให้ข้อมูลผิดหรือมีการชี้นำไปในทางที่ผิด หลังจากเปิดตัวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีลักษณะคล้ายกับ Community Notes บน X

ฟีเจอร์นี้อยู่ระหว่างการทดสอบกับผู้เข้าร่วมที่ได้รับเชิญจาก Youtube และมีให้ใช้บนมือถือเท่านั้น การทำงานของฟีเจอร์นี้คือ กดปุ่ม Add note และเพิ่มคำอธิบายโดยอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

โน้ตจะถูกเพิ่มเป็นกล่องเล็ก ๆ ใต้วิดีโอหากมีคนเห็นด้วยจนถึงจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ผู้เข้่าชมคนอื่น ๆ เห็นข้อมูลที่ถูกต้องตลอดจนเห็นบริบทของข้อมูลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

นาซ่าแถลงข่าวถึงกระบวนการนำนักบินของยาน Boeing Starliner สองคน คือ Butch Wilmore และ Suni Williams กลับสู่โลก หลังจากยาน Starliner มีความผิดพลาดจนต้องทดสอบการทำงานของเจ็ตบนยานว่ายังทำงานได้ดีหรือไม่ และตอนนี้วิศวกรของนาซ่าเองก็มีความเห็นไม่ลงรอยกันว่าควรใช้ยาน Starliner พานักบินทั้งสองกลับบ้านหรือไม่ หรือจะให้รอกลับกับยาน Dragon ทีเดียวปีหน้า

ยาน Dragon มีกำหนดภารกิจ Crew-9 นำนักบินอวกาศสี่คนขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติในเดือนนี้ แต่ตอนนี้ภารกิจถูกเลื่อนไปเป็นเดือนกันยายน โดยทางเลือกหนึ่งคือลดนักบิน Crew-9 เหลือ 2 คนและนำนักบิน 2 คนจาก Starliner กลับมาด้วยในปีหน้า

แม้ว่า Google TV Streamer ที่เพิ่งออก จะเพิ่มความจุสตอเรจจาก Chromecast ที่มี 8GB ให้อยู่ที่ 32GB แต่ก็อาจจะยังไม่พอสำหรับการใช้งานในหลายๆ กรณี ล่าสุด Google คอนเฟิร์มแล้วว่า อุปกรณ์สตรีมมิ่งรุ่นล่าสุดจะรองรับการเชื่อมต่อสตอเรจภายนอกเหมือนกับ Chromecast เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่พอร์ทเชื่อมต่อของ Google TV Streamer มีเพียง USB-C สำหรับจ่ายไฟและพอร์ต Ethernet เท่านั้น การเชื่อมต่อกับสตอเรจภายนอก จะต้องใช้ USB-C Dongle เพื่อเชื่อมกับตัวเครื่อง และต่อกับสายไฟ พร้อมกับสตอเรจแทน โดย 9to5Google คาดว่า ก็น่าจะรองรับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เม้าส์ ก็น่าจะรองรับด้วยเช่นกัน

Adecco บริษัทให้บริการเอาต์ซอร์สแรงงานรายงานถึงผลประกอบการประจำไตรมาสพร้อมกับ Denis Machuel ซีอีโอบริษัทออกมาให้ความเห็นว่าตลาดแรงงานไอทีในสหรัฐฯ นั้นถึงจุดตำ่สุดแล้ว แม้จะยังมีข่าวการลดคนอยู่บ้างแต่ก็ไม่น่าจะแย่กว่านี้แล้ว อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวนั้นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

รายได้ของ Adecco จากภูมิภาคอเมริกาเหนือลดลงถึง 14% โดยสาเหตุหลักคือแรงงานไอทีและยานยนต์ลดลง ขณะที่แรงงานฝั่งค้าปลีกนั้นยังแข็งแรงอยู่ ตลาดแรงงานไอทีไม่ได้หดตัวไปเสียทั้งหมด ผลประกอบการของ Adecco ในภูมิภาคอื่นๆ ยังเติบโต เช่นเอเชียแปซิฟิก

หลังจาก กูเกิลเปิดตัวอุปกรณ์สตรีมมิ่งใหม่ Google TV Streamer ราคา 100 ดอลลาร์ และยกเลิกการขาย Chromecast ที่ราคา 30-50 ดอลลาร์ จึงเกิดคำถามตามมาว่า กูเกิลจะทิ้งตลาดนี้ไปเลยหรือไม่

ตอนนี้มีคำยืนยันแล้วจาก Shalini Govil-Pai ผู้บริหารฝ่าย Google TV ที่ให้สัมภาษณ์กับ The Verge ว่ากูเกิลจะไม่กลับมาทำตลาดอุปกรณ์สตรีมมิ่งราคาถูกอีกแล้ว ด้วยเหตุผลว่ามีสินค้าระดับนี้จากแบรนด์อื่นๆ ทำตลาด [ในสหรัฐ] เยอะพอสมควรแล้ว เช่น Walmart Onn, Amazon Fire TV Stick, Roku Streaming Stick ดังนั้นกูเกิลจึงไม่ต้องมาทำตลาดนี้อีก

Disney ประกาศขึ้นราคาบริการสตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกาทั้ง 3 ตัวคือ Disney+, Hulu, ESPN+ โดยแพ็กเกจ Disney+ แบบมีโฆษณาเพิ่มจากเดือนละ 7.99 ดอลลาร์เป็น 9.99 ดอลลาร์ และแพ็กเกจแบบไม่มีโฆษณาเพิ่มจาก 13.99 ดอลลาร์เป็น 15.99 ดอลลาร์

การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลในวันที่ 17 ตุลาคม 2024 เฉพาะลูกค้าในสหรัฐอเมริกา และไม่รวมถึงกรณีของไทยที่เป็นบริการแยกอีกตัวคือ Disney+ Hotstar ซึ่งขึ้นราคาไปก่อนแล้ว

ในงานแถลงผลประกอบการของ Disney เมื่อคืนนี้ ซีอีโอ Bob Iger ยืนยันว่าจะเริ่มใช้มาตรการแบนลูกค้าที่แชร์รหัสผ่านกันในเดือนกันยายน 2024 แบบเดียวกับที่ Netflix ทำมาก่อนแล้ว และประสบความสำเร็จดี

เก็บตกงานแถลงผลประกอบการ Sony ไตรมาส 2/2024 ฝั่งของธุรกิจเกม ตอนนี้ฮาร์ดแวร์ PS5 มียอดขายรวม 61.7 ล้านเครื่อง

Sony ขายเครื่อง PS5 ได้ 2.4 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ถือว่าลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขายได้ 3.3 ล้านเครื่องอยู่พอสมควร แต่ก็เป็นไปตามที่ Sony เคยประกาศไว้ในไตรมาสก่อนว่า PS5 เลยจุดพีคมาแล้ว ยอดขายเครื่องจะตกลงเรื่อยๆ ต้องรอดูกันว่า PS5 Pro ที่มีข่าวว่าจะวางขายช่วงปลายปี 2024 จะช่วยกู้สถานการณ์ได้แค่ไหน

Meta ปิดสตูดิโอพัฒนาเกม Ready at Dawn ที่เคยมีผลงานเกม Lone Echo 1-2 มาก่อน

Ready at Dawn ก่อตั้งในปี 2003 ช่วงแรกเน้นทำเกมสำหรับ PSP แต่ภายหลังผันตัวมาเป็นสตูดิโอที่เชี่ยวชาญเกม VR และถูก Meta ซื้อกิจการมาในปี 2020 เพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Oculus Studios (ชื่อในตอนนั้น) เน้นทำเกม VR เพื่อเสริมยอดขายของแว่น Oculus/Meta Quest

เดือนที่แล้วเพิ่งมีข่าวลือว่า Meta ตัดงบประมาณของฝ่าย Reality Labs ที่ดูแลกิจการ VR ทั้งหมดลง จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ Ready at Dawn โดนปิดในครั้งนี้ด้วย

สำนักข่าว Reuters รายงานข้อมูลอ้างจากคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง 4 คน บอกว่าเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว อินเทลได้รับข้อเสนอให้ลงทุนใน OpenAI ที่เวลานั้นยังมีสถานะเป็นบริษัทวิจัยปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่แสวงหากำไร กำลังวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับ Generative AI

ผู้บริหารของอินเทลและ OpenAI ได้หารือกันหลายครั้งช่วงปี 2017-2018 ข้อเสนอการลงทุนนั้นมีหลายอย่าง เช่น OpenAI เสนอให้อินเทลถือหุ้น 15% โดยจ่ายเงินสด 1 พันล้านดอลลาร์ รวมทั้งให้ข้อเสนอถือหุ้นเพิ่มอีก 15% แลกกับอินเทลต้องขายฮาร์ดแวร์ประมวลผลให้ OpenAI ที่ราคาต้นทุน

แอปเปิลออกอัปเดตย่อยให้กับระบบปฏิบัติการของ iPhone, iPad และ Mac โดยระบุว่ามีการแก้ไขบั๊กและช่องโหว่ความปลอดภัยที่สำคัญ รวมทั้งบั๊กที่ทำให้เปิดหรือปิดการใช้งานตัวเข้ารหัส iCloud แบบ end-to-end Advanced Data Protection ไม่ได้ โดยในตอนนี้ยังไม่ได้เผยแพร่รายละเอียดช่องโหว่ความปลอดภัย

อัปเดตนี้ยังรวมไปถึง iOS และ macOS เวอร์ชันเก่าสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดได้ด้วย มีรายละเอียดดังนี้

เกม Star Wars Jedi: Survivor ของค่าย EA/Respawn วางขายไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 และทำผลงานออกมาดีในแง่เสียงวิจารณ์กับยอดขาย แต่หลายคนอาจลืมกันไปแล้วว่า เกมสัญญาจะออกเวอร์ชันคอนโซลรุ่นก่อนหน้าคือ PS4 กับ Xbox One ด้วย

ล่าสุด EA ประกาศแล้วว่า Star Wars Jedi: Survivor มีกำหนดขายบน PS4 กับ Xbox One ในวันที่ 17 กันยายน 2024 (ทิ้งช่วงจากพีซีและคอนโซลยุคใหม่ไป 1 ปีครึ่ง แต่ก็ยังไม่ลืมกัน) ในราคา 49.99 ดอลลาร์

ก่อนหน้านี้แอปเปิลบอกว่า Apple Intelligence ความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะมีให้ใช้งานใน iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษแบบสหรัฐฯ ก่อน และจะเพิ่มภาษาอื่น ๆ ต่อจากนั้น โดยประเทศในยุโรปไม่น่าได้ใช้งานภายในปีนี้ เพราะแอปเปิลต้องตรวจสอบประเด็นกฎหมายดิจิทัล DMA ของสหภาพยุโรป

อย่างไรก็ตามข้อมูลในอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ที่ตอนนี้อยู่ในสถานะเบต้าสำหรับนักพัฒนา พบว่า macOS Sequoia อาจเปิดให้ใช้งาน Apple Intelligence ได้เลย โดยไม่มีประเด็นเรื่องกฎหมายของ EU

WordStar เป็นซอฟต์แวร์ word processor ยุคแรกๆ เพราะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1978 ในยุคเครื่อง CP/M หลังจากนั้นจึงขยายมายัง MS-DOS และ Windows ในยุคแรกๆ ก่อนพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งคือ WordPerfect และ Microsoft Word จนล้มหายตายจากไปในวงการ

แต่ WordStar ยังมีกลุ่มแฟนๆ ที่ยังใช้งานอยู่เหนียวแน่น โดยเฉพาะสายนักเขียนนิยาย เช่น George R.R. Martin ที่เขียน Game of Thrones ด้วย WordStar 4.0 แม้ว่าตัวซอฟต์แวร์ไม่ได้อัพเดตมานานมากแล้วก็ตาม (WordStar เวอร์ชันสุดท้ายบน DOS คือเวอร์ชัน 7.0D ออกปี 1992)

ดิสนีย์รายงานผลประกอบการของไตรมาสเดือนมิถุนายน โดยธุรกิจสตรีมมิ่งทั้งหมดของดิสนีย์ (กลุ่ม Direct-to-Consumer หรือ DTC รวมกับ ESPN+) มีกำไรจากการดำเนินงานเป็นครั้งแรก 47 ล้านดอลลาร์ จากไตรมาสก่อนหน้านี้เฉพาะ DTC (Disney+ และ Hulu) ที่มีกำไร

Bob Iger ซีอีโอดิสนีย์กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาธุรกิจบันเทิงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งภาพยนตร์ใน Box Office และธุรกิจสตรีมมิ่งที่มีกำไรเป็นครั้งแรก โดย Inside Out 2 ทำรายได้ทั่วโลกมากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เป็นภาพยนตร์อนิเมชันทำเงินสูงสุดตลอดกาล

Disney+ มีจำนวนสมาชิกทั่วโลก 118.3 ล้านบัญชี โดยยังไม่รวม Disney+ Hotstar ที่มีสมาชิก 35.5 ล้านบัญชี ส่วน Hulu มีสมาชิก 51.1 ล้านบัญชี