ถึงแม้ซัมซุงจะทำการตลาดประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ยอดขายสมาร์ทโฟนขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง (อ้างอิง) แต่งานวิจัยโดย Strategic Analytics ชี้ว่าผู้ใช้ซัมซุงแทบจะไม่ได้ใช้แอพของซัมซุงเลย หรือใช้ก็ใช้น้อยมาก
Strategic Analytics ที่ติดตามผู้ใช้ Galaxy S3 และ S4 ในสหรัฐ พบว่าผู้ใช้ใช้เวลาน้อยกว่า 7 นาทีในการใช้งานแอพของซัมซุงเช่น ChatOn, S Voice และ Samsung HUB ในหนึ่งเดือน ขณะที่แอพของกูเกิลอย่าง YouTube, Play Store และเสิร์ชเอนจินถูกใช้งานเฉลี่ย 149 นาที เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมถูกใช้งานมากกว่า 11 ชั่วโมงและ 2 ชั่วโมงตามลำดับในระยะเวลาหนึ่งเดือน
Curtis Wong ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแอพแผนที่โลกและอวกาศ WorldWide Telescope ภายใต้ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ช และ GeoFlow เครื่องมือพล็อตข้อมูลจาก Excel บนแผนที่โลก 3 มิติ ได้นำเสนอโครงการ Holograph แพลตฟอร์มนำเสนอข้อมูลแบบตายตัวหรือแบบมีพลวัต (dynamic) ใน 3 มิติให้อยู่เหนือหรืออยู่ใต้แนวระนาบของหน้าจอ 2 มิติ
นักวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีในเกาหลีใต้ KAIST (Korea Advanced Institute of Science and Technology) ทำการวิจัยสร้างระบบส่งพลังงานไฟฟ้าแบบไร้สายที่จะสามารถชาร์จไฟให้แก่สมาร์ทโฟนถึง 40 เครื่องได้ในเวลาเดียวกัน
ทีมวิจัยได้สาธิตอุปกรณ์รุ่นต้นแบบของ Dipole Coil Resonant System (DCRS) ซึ่งก็คือระบบสั่นพ้องของขดลวดแบบ 2 ขั้ว โดยทำการส่งพลังงานระหว่างขดลวด 2 ชุดด้วยการเหนี่ยวนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งนี้ระบบดังกล่าวสามารถจ่ายพลังงานจากขดลวดฝั่งส่งกำลังในปริมาณที่มากเพียงพอที่จะเลี้ยงอุปกรณ์หลายชิ้นได้ในคราวเดียวกัน ไปยังขดลวดฝั่งรับพลังงานที่จะกระจายพลังงานไฟฟ้าไปให้อุปกรณ์ที่วางอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ในห้องผ่านทางสายไฟและปลั๊กที่ต่อพ่วงอยู่กับขดลวดนั้น
ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชโชว์ผลงาน 3D Reconstruction on Portable Devices ซึ่งเป็นการนำอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาถ่ายภาพพื้นผิววัตถุโดยรอบและประมวลผลเพื่อสร้างโมเดลสามมิติบนกลุ่มเมฆ
ทีมวิจัยกล่าวว่า ความท้าทายคือการแนะนำให้ผู้ใช้ถ่ายภาพพื้นผิวทั้งหมดของวัตถุ เพื่อแก้ปัญหานี้จึงใช้การประมวลผลทรงกลมสามมิติโดยรอบวัตถุและแนะนำให้ผู้ใช้ถ่ายภาพตาม (ดูคลิปนำเสนอได้ที่ท้ายข่าว รายละเอียดเพิ่มเติมนั้นดูได้จากที่มาของข่าว)
ทีมวิจัยกล่าวว่า สามารถปรับใช้เทคโนโลยีได้หลากหลาย อาทิ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ อีคอมเมิร์ช การระบุและค้นหาวัตถุ เป็นต้น โมเดลสามมิตินี้ยังสามารถพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์สามมิติได้ด้วย
ที่งาน TechFest 2014 เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักวิจัยจาก Human-Computer Interaction Group ของไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชได้นำเสนอโครงการ Interactive Tile ซึ่งกล่าวถึงส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ที่ผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับฟังก์ชันหรือคอนเทนต์ของแอพหนึ่งผ่าน Live Tiles ได้ อาทิ ผู้ใช้สามารถเปิดไฟล์เอกสารโดยคลิกที่ชื่อไฟล์ที่ปรากฏบน Live Tiles บน Start screen ของ Windows 8 หรือ ผู้ใช้สามารถตอบข้อความ (reply) เพื่อนที่โพสต์บนเฟซบุ๊กได้จากไทล์ของแอพการเชื่อมต่อบุคคล (People) (แอพเรียกดูรายชื่อผู้ติดต่อแบบ Metro ที่มากับ Windows 8) โดยไม่ต้องเปิดแอพขึ้นมาแต่อย่างใด
จากเดิมที่เข้าใจกันว่า เกมที่มีภาพ และเนื้อหารุนแรง จะส่งผลให้ผู้เล่นมีแนวโน้มที่จะเป็นคนรุนแรงนั้น ผลการวิจัยล่าสุดชี้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
โดยคุณ Andrew Przybylski จากสถาบันอินเทอร์เน็ตแห่งมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดประเทศอังกฤษ (Oxford Internet Institute) ได้ทำการทดสอบจากกลุ่มตัวอย่างอายุ 20 - 30 ปี จำนวน 300 คน โดยการให้เล่นเกมที่ผ่านการดัดแปลงส่วนติดต่อผู้ใช้, คอนโทรลเลอร์ และความยาก หลายเกมหลายแนวด้วยกัน เพื่อศึกษาดูว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลกับอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของผู้รับการทดสอบ
ช่องโหว่ของตัวสร้างเลขสุ่มเทียม Dual_EC_DRBG นับเป็นประเด็นสำคัญที่วงการวิชาการรหัสวิทยาที่เคยเป็นมิตรกับ NSA ปฎิเสธที่จะร่วมงาน รับฟัง หรือพูดคุยกับ NSA ลงเรื่อยๆ ตอนนี้ทีมวิจัยกลุ่มหนึ่งก็เผยแพร่งานวิจัยค้นคว้าว่าผลกระทบของ Dual_EC_DRBG นั้นมีผลกระทบต่อการเข้ารหัสโดยทั่วไปอย่างไรบ้าง โดยเผยแพร่ในเว็บ ProjectBullrun.org ที่ตั้งชื่อตามโครงการ BULLRUN ของ NSA เอง
กลุ่ม Fluid Interfaces Group ของ MIT Media Lab นำเสนอต้นแบบ FingerReader สำหรับผู้พิการทางสายตา ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สวมนิ้วมือซึ่งสามารถอ่านออกเสียงคำแต่ละคำที่นิ้วชี้ลงบนเนื้อหาที่ถูกพิมพ์ (printed text) ได้
นักวิจัยผู้พัฒนา FingerReader มองว่า ถึงแม้จะมีซอฟต์แวร์อ่านข้อความและสแกนเนอร์สำหรับอักษรเบรลล์ แต่หลายระบบในเครื่องมือช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาเหล่านั้นก็พกพาไปใช้งานยาก และยังต้องใช้หลายขั้นตอนกว่าจะแปลข้อความเป็นเสียงได้ FingerReader จึงได้รับการพัฒนาขึ้น นักวิจัยยังกล่าวว่าระบบนี้ยังช่วยแปลข้อความระหว่างภาษาได้ด้วย
ด้วยข้อความกว่า 500 ล้านทวีตต่อวัน ทำให้ทวิตเตอร์เป็นเครือข่ายสังคมที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องสนุกสนานอย่างการเล่นเวฟสวัสดีปีใหม่ ไปจนถึงเรื่องจริงจังอย่างการติดตามการแพร่ระบาดของไข้หวัด
อย่างไรก็ตาม การนำข้อมูลเหล่านี้ออกมาใช้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักวิจัยภายนอก ด้วยนโยบายจำกัดการเรียกดูข้อความล่าสุดไว้เพียง 3,200 ทวีตต่อบัญชี นักวิจัยที่ต้องการข้อความมากกว่านั้น ต้องไล่เก็บทวีตเป็นระยะๆ เอง
กูเกิลเปิดตัวโครงการ Tango เป็นโทรศัพท์มือถือหน้าจอห้านิ้วที่มีเซ็นเซอร์สำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวตลอดเวลา ทำให้สามารถสร้างแผนที่สามมิติรอบตัวเราได้ตลอดเวลา
ภายในของ Tango เป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ปรับแต่งมาเฉพาะ เพิ่ม API ในการจับตำแหน่ง, ทิศทางของเครื่อง, และข้อมูลระยะทางวัตถุรอบตัว สามารถเข้าถึงได้จากจาวา, C/C++, และ Unity Game Engine
ตอนนี้โครงการเป็นความร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยทั้งจากบริษัทและมหาวิทยาลัยเท่านั้ ถ้าใครสนใจต้องส่งใบสมัครเพื่อรับพิจารณาเป็นกรณีไป
เรื่องมีอยู่ว่ามหาวิทยาลัย Princeton ได้เผยแพร่งานวิจัย โดยมีส่วนสรุปคือ Facebook จะสูญเสียผู้ใช้งานไปถึง 80% ภายในปี 2015-2017 โดยระเบียบวิธีวิจัยนั้นใช้การหาสหสัมพันธ์ของจำนวนผู้ใช้งานกับปริมาณการสืบค้นในกูเกิล พบว่าสอดคล้องกันกับกรณีของ MySpace จึงนำมาใช้ทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ Facebook เนื่องจากพบว่ามีการค้นหาในกูเกิลลดลงมากตั้งแต่ปี 2012 (อ่านงานวิจัยฉบับเต็มที่นี่)
Mike Develin, Lada Adamic และ Sean Taylor นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลของ Facebook จึงได้ร่วมกันทำการทดสอบเพื่อเอาคืน Princeton มีข้อสรุปดังนี้
หลังจากที่ Ford เพิ่งจะเผยโฉมรถยนต์ไร้คนขับรุ่นต้นแบบมาให้ได้เห็นกันเมื่อเดือนก่อน ตอนนี้ก็ได้แนวร่วมสำคัญอย่าง MIT และ Stanford มาร่วมวิจัยและพัฒนาระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางให้แก่รถยนต์อัจฉริยะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
MIT กำลังทำการศึกษางานวิจัยเพื่อคาดเดาการเคลื่อนที่ของคนเดินถนนและผู้ขับขี่ยานพาหนะอื่น ซึ่งจะช่วยให้รถยนต์ไร้คนขับสามารถหาเส้นทางเพื่อหลบหลีกการเคลื่อนที่ของผู้คนเหล่านั้นได้โดยไม่เกิดอุบัติเหตุ ในขณะที่ Stanford กำลังมุ่งเน้นศึกษาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์เพื่อ "แอบมอง" ด้านหลังของวัตถุต่างๆ ที่อยู่นอกทัศนวิสัยของผู้ขับขี่หรือกล้องจับภาพ
ทีม Microsoft Research โชว์ผลงานการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์สำหรับการประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจำวัน ในรูปแบบของลิฟต์อัจฉริยะที่สามารถพาผู้คนไปยังชั้นที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องรอให้ผู้โดยสารกดปุ่มบอกชั้นจุดหมายปลายทาง
Joe Duffy วิศวกรอาวุโสของไมโครซอฟท์ที่รับผิดชอบงาน "วิจัย" ด้านระบบปฏิบัติการ เขียนบล็อกอธิบายผลงานที่ทีมของเขาใช้เวลากว่า 4 ปีซุ่มพัฒนาขึ้นมา มันคือภาษาโปรแกรมภาษาใหม่ที่พัฒนาต่อจาก C# แต่ชูจุดเด่นเรื่องประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับ C++ ("C# for Systems Programming")
Duffy อธิบายว่าภาษาโปรแกรมในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
ปี 2013 นับเป็นปีที่ผู้ใช้ถูกรุกรานข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์อย่างมากในหลายรูปแบบ ทาง Benenson Strategy Group และ American Viewpoint สององค์กรสำรวจความเห็นได้ไปเก็บความเห็นเกี่ยวกับความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตของสหรัฐฯ จำนวน 1,000 คน ได้ผลออกมาดังนี้
จากผลการสำรวจ ผู้ใช้ส่วนมากยังคงกังวลกับการถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวบนอินเทอร์เน็ต มากกว่าการถูกดักข้อมูลส่วนตัว (เพื่อไปใช้ในการโฆษณา) ในสัดส่วน 75% ต่อ 54% โดยความกังวลอื่นๆ คือความปลอดภัยของเด็กในการใช้อินเทอร์เน็ต และการที่รัฐบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บนอินเทอร์เน็ตได้ ส่วนความกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกนำไปใช้เพื่อแสดงผลโฆษณานั้นมีอยู่บ้าง แต่ยังไม่มากนัก
Consumer Intelligence Research Partner (CIRP) บริษัทศึกษาด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับผู้จับจ่ายใช้สอย ได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อของ Amazon ในสหรัฐฯ ภายในรายงานมีตัวเลขน่าสนใจเกี่ยวกับตัว Amazon และ Kindle หลายอย่าง ดังนี้ครับ
ปัญหาการตั้งรหัสผ่านไม่ดี ทำให้แฮกเกอร์ถอดรหัสผ่านออกมาได้ง่ายเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกของระบบรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ แม้ที่ผ่านมาจะมีกระบวนการ "วัด" ความแข็งแรงของรหัสผ่านกันออกมาหลายรูปแบบ ตอนนี้ Microsoft Research เสนอแนวทางใหม่ในการแนะนำผู้ใช้ให้สร้างรหัสผ่านให้ปลอดภัย ด้วยการแนะนำผู้ใช้ทีละตัวอักษรว่าไม่ควรใช้ตัวอักษรใดต่อไป ในชื่อว่า Telepathwords
ด้วยวิธีการนี้ ทุกครั้งที่ผู้ใช้พิมพ์รหัสผ่านเพื่อตั้งรหัสผ่านครั้งแรก ซอฟต์แวร์จะแนะนำว่าไม่ควรใช้ตัวอักษรใดเป็นตัวต่อไป เพราะคาดเดาได้ง่ายเกินไป เช่น เมื่อพิมพ์ตัว "t" จะแนะนำว่าไม่ควรใช้ตัว "h", "o", และ "v" ต่อ เพราะพบบ่อยในภาษาอังกฤษ
ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งโรเชสเตอร์ในสหรัฐฯ และมหาวิทยาลัยเซาแธมตันในสหราชอาณาจักร พัฒนาต้นแบบ ยกทรงอัจฉริยะ (smart bra) ที่ฝังเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เครื่องวัดการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการเหนี่ยวนำไฟฟ้าของผิวหนัง (EDA) ไจโรสโคปแบบสองทิศทาง และเครื่องวัดอัตราเร่งแบบสามทิศทาง (ภาพที่ 1)
นักวิจัยอธิบายว่า สัญญาณ EKG และ EDA สามารถใช้ประเมินอารมณ์ของผู้สวมใส่ ณ ขณะนั้นได้ และที่เลือกใช้ยกทรงเพราะต้องการอุปกรณ์ที่ผู้ใช้สวมใส่สบายเป็นเวลานานและสามารถเก็บสัญญาณ EKG และ EDA ได้ในคราวเดียวกัน และเพราะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ให้ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจใกล้หัวใจได้
ช่วงนี้ประเด็นข่าว "ศูนย์ข้อมูลล่ม" กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตา มีงานวิจัยออกมาพอดีเลยนำมาให้ดูเทียบกันครับ
ผลการศึกษาจากสถาบัน Ponemon Institute ระบุว่าค่าเสียหายเฉลี่ยในกรณีที่ศูนย์ข้อมูลมีปัญหา หารกันออกมาแล้วอยู่ที่นาทีละ 7,900 ดอลลาร์หรือประมาณ 260,000 บาท โดยตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นถึง 41% จากตัวเลขที่เคยคำนวณไว้เมื่อปี 2010 เนื่องจากความสำคัญของศูนย์ข้อมูลและบริการออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น
หลังจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อนผมได้ประกาศถึงการทดลองการออกแบบรหัสผ่านที่จดจำได้ไปแล้ว ตอนนี้ทีมงานก็กลับไปปรับกระบวนการกันใหม่จากผลรอบแรกที่ได้รับมานะครับ เพื่อให้เก็บข้อมูลการทดลองที่ปรับมาแล้วอีกครั้ง รอบนี้จึงต้องขอรบกวนผู้อ่านทุกท่านอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมทดสอบ
กระบวนการทดสอบที่แต่ละท่านล็อกอินเข้าไปทดสอบอาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยตามแต่พารามิเตอร์ของท่านเองและค่าสุ่มที่เราใส่ไว้ กระบวนการรวมๆ จะต่างจากเดิมดังนั้นหากเข้าร่วมทดสอบ ขอความร่วมมืออ่านกระบวนการให้เข้าใจก่อนนะครับ
ในกระบวนการนี้เราขอเชิญสมาชิก Blognone ที่เป็นสมาชิกมานานเกิน 1 เดือน เข้าร่วมทำแบบทดสอบของเรา
Hristo Bojinov นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากมหาวิทยาลัย Stanford ค้นพบวิธีติดตามและสะกดรอยผู้ใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนโดยใช้ข้อมูลที่ได้จาก accelerometer ทั้งนี้เนื่องมาจากการทำงานของ accelerometer ที่อยู่ในมือถือแต่และเครื่องนั้นไม่สมบูรณ์แบบ 100% ทำให้ค่าที่อ่านได้เมื่อเครื่องอยู่ในสภาวะหยุดนิ่งหรือไม่มีความเร่ง (idle) นั้นต่างกันไปตามมือถือแต่ละเครื่อง
ผลงานวิจัยใหม่ของ Disney Research เป็นการพัฒนาหน้าจอสัมผัส ที่นอกจากจะใช้แสดงภาพแล้ว ยังสามารถถ่ายทอดผิวสัมผัสของวัตถุตามที่ปรากฏบนหน้าจอให้ผู้ใช้รับรู้ผ่านปลายนิ้วได้ด้วย
ผลงานนี้มุ่งเน้นการสร้างผิวสัมผัสที่แตกต่างกันในแต่ละส่วนของหน้าจอ โดยพื้นที่ซึ่งให้ผิวสัมผัสที่แตกต่างกันนั้นจะแปรเปลี่ยนตามภาพที่ฉายอยู่บนหน้าจอนั้น โดยเทคนิคที่ Disney นำมาใช้คือการปล่อยแรงดันไฟฟ้าเพื่อสร้างการสั่นสะเทือนให้แก่หน้าจอซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียดทานขึ้นที่ปลายนิ้วของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกเสมือนได้สัมผัสวัตถุในภาพ ทั้งนี้แรงสั่นสะเทือนที่แตกต่างกันจะมีผลให้ความเสียดทานที่เกิดขึ้นมามีความแตกต่างกันออกไปด้วย จึงสามารถถ่ายทอดผิวสัมผัสของวัตถุที่มีความลึกหลากหลายได้
กฏของ Moore ทำนายว่าจำนวนทรานซิสเตอร์ในวงจรรวมจะเพิ่มเป็นสองเท่าทุกๆ สองปี แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์แบบเดิมใกล้ถึงขีดจำกัดเนื่องจากขนาดทรานซิสเตอร์ที่เล็กลงส่งผลให้การควบคุมกระแสไฟฟ้ายากขึ้นและเกิดความร้อนสูง ทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัย Colorado Boulder, Massachusetts Institute of Technology และบริษัท Micron Technology นำทีมโดย Milos Popovic ค้นพบทางออกของปัญหานี้โดยการสร้างตัวกล้ำสัญญาณแสง (optical modulator) ซึ่งสามารถแปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณแสงได้ โดยตัวแปลงสัญญาณนี้สามารถรวมเข้าไปในวงจรรวมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้เลย การใช้แสงสื่อสัญญาณ (Photonic) แทนอิเล็กตรอนนั้นมีข้อดีหลายประการเช่น
เมื่อเราๆ ท่านๆ สนใจอยากซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต สิ่งแรกๆ ที่คนมักจะทำกันก็คือมองหาความเห็นหรือรีวิวของลูกค้าที่เคยซื้อหรือกำลังใช้สินค้าตัวนั้น และความเห็นที่คนส่วนใหญ่ให้น้ำหนักมากที่สุดก็คือความเห็นที่ได้รับการโหวตเยอะๆ เพราะเราเชื่อว่ามันผ่านการรับรองจากคนจำนวนมาก ดังนั้นมันจึงน่าเชื่อถือ
แต่ทีมวิจัยที่นำโดย Sinan Aral แห่ง Massachusetts Institute of Technology สงสัยว่าจำนวนโหวตของความเห็นน่าเชื่อถือจริงหรือไม่ มันปราศจากการชี้นำจริงหรือเปล่า พวกเขาต้องการที่จะพิสูจน์ด้วยการทดลองอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
ข่าวนี้เป็นเรื่องของ "กระบวนการ" ไม่ใช่ปัญหาของระบบนะครับ
ทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยจากมหาวิทยาลัย Georgia Tech เปิดเผยว่าสามารถส่งแอพทดสอบที่ประสงค์ร้ายกับผู้ใช้งาน (สามารถแอบโพสต์ทวิตเตอร์, ส่งอีเมลและ SMS, ขโมยข้อมูลส่วนบุคคล, ถ่ายภาพ, สั่งเปิด Safari ให้เข้าเว็บที่มีมัลแวร์) ชื่อ Jekyll ขึ้นบน App Store โดยที่แอปเปิลไม่รู้ตัวได้แล้ว
ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการตรวจสอบแอพของแอปเปิลที่ทดสอบแอพ "เป็นระยะเวลาน้อยเกินไป"