กรณีคุกคามทางเพศในบริษัทเทคโนโลยีค่อยๆ เผยออกมาเรื่อยๆ ในบริษัทเทคโนโลยี โดย Beatrice Kim ฟ้องร้องซีอีโอบริษัทอดีตนายจ้าง BetterWorks คือ Kris Duggan ข้อหากระทำคุกคามทางเพศ และฟ้องร้องผู้บริหารรายอื่นคือ Matt Hart ผู้จัดการซอฟต์แวร์ส่วนภูมิภาค และ Tamara Cooksey ผู้จัดการการดำเนินงานส่วนบุคคล ฐานปล่อยให้การคุกคามทางเพศเกิดขึ้น และไม่จัดการอะไรแม้จะได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วก็ตาม

Conor D. Mack ทนายความของผู้ฟ้องระบุกับนักข่าวว่า โจทก์คือ Beatrice Kim ระบุว่า Kris Duggan ได้ทำร้ายโจทก์ในลักษณะที่เป็นการกระทำคุกคามทางเพศ (เมื่ออ่านจากรายละเอียดคำให้การของ Kim อาจเรียกได้ว่าเธอเกทอบจะถูกข่มขืน) โดยไม่สนใจความพยายามของโจทก์ในการประท้วงและเรียกร้องปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากการกระทำนั้น จนกระทั่งมีเพื่อนร่วมงานเข้าไปขัดขวาง

ถึงแม้ Uber จะไล่ผู้ก่อตั้ง Otto ที่ขโมยเอกสาร Waymo ออกไปแล้วก็ตาม ทว่าปมความขัดแย้งระหว่าง Uber กับ Waymoยังคงดำเนินต่อไปในกระบวนการชั้นศาล

เอกสารการไต่สวนที่เปิดเผยออกมาล่าสุดชี้ว่า Waymo ยื่นฟ้องเพิ่มเติมต่อศาล โดยอ้างคำพูดจากฝั่ง Uber เองว่า Travis Kalanick ที่ตอนนี้เป็นอดีตซีอีโอ Uber ไปแล้ว รู้เรื่องที่ Anthony Levandowski ผู้ก่อตั้ง Otto และอดีตพนักงาน Waymo แอบขโมยเอกสารลับสุดยอดออกมาจากที่ทำงานเก่า ก่อนจะสั่งให้ Levandowski ทำลายเอกสารนั้นทั้งหมด

เป็นความต่อเนื่องจากข่าวเก่า กรณีศาลชั้นต้นอนุมัติ กรณีแอปเปิลยอมความในคดีโก่งราคาอีบุ๊กแล้ว ที่สุดแล้วเมื่อปลายปี 2015 ศาลแขวงสั่งให้แอปเปิลคืนเงินให้แก่ลูกค้าสหรัฐผู้ที่ซื้อหนังสืออีบุ๊กในช่วง 1 เมษายน 2010 ถึง 21 พฤษภาคม 2012 โดยเข้าเป็นเครดิตกลับเข้าไปในสโตร์ ที่เราซื้อมาอันได้แก่ Amazon, Barnes & Noble Inc., Kobo และ Apple

แต่ละคนจะได้เดรดิตคืนมากบ้างน้อยบ้างตามจำนวนและประเภทของอีบุ๊กที่ซื้อไป แต่เครดิตที่ว่าจะไม่อยู่กับเราไปตลอด จะหมดอายุหนึ่งปี ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 24 เวลาเกือบเที่ยงคืนเวลาอเมริกา หรือเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 25 ตามเวลาบ้านเรา

Jane Doe (นามสมมติ) หญิงสาวที่ถูกข่มขืนโดยคนขับอูเบอร์ในอินเดียเมื่อปี 2014 ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทต่อบริษัทอูเบอร์และอดีต ผู้บริหาร Emil Michael กับ Eric Alexander รวมทั้ง Travis Kalanick CEO ที่พักงานแบบไม่มีกำหนดด้วย เนื่องจากพยายามเข้าถึงข้อมูลการแพทย์ของเหยื่อ และตั้งข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ข่มขืน มีบริษัทแท็กซี่ในอินเดียที่เป็นคู่แข่งกับอูเบอร์ในท้องถิ่นอยู่เบื้องหลัง

ความขัดแย้งระหว่าง Uber กับ Waymo มีความคืบหน้าไปอีกขั้น เพราะ Uber ไล่ Anthony Levandowski พนักงานผู้เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งครั้งนี้ออกแล้ว

Levandowski เป็นอดีตพนักงานของ Waymo ก่อนลาออกมาตั้งบริษัท Otto ทำรถบรรทุกไร้คนขับ แล้วขายกิจการให้ Uber อีกทีหนึ่ง โดยฝั่งของ Waymo ระบุว่าเขาแอบดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลทางเทคนิคไปใช้กับ Otto จนนำมาสู่คดีฟ้องร้องในที่สุด

ไมโครซอฟท์ได้ยื่นฟ้องเว็บไซต์ iGSKY เว็บไซต์ให้บริการด้านเกมในจีน ฐานแฮก ขโมยและหมุนเงินจากบัญชี Xbox ตั้งแต่ปี 2015 ทำรายได้ไปแล้วราว 2 ล้านเหรียญสหรัฐ

จากคำร้องของไมโครซอฟท์ เว็บไซต์ iGSKY ให้บริการขายเครดิตและไอเท็มภายในเกม โดยเมื่อมีผู้ใช้ซื้อเครดิต ทางเว็บจะนำเครดิตจากแอคเคาท์ Xbox อื่นโอนไปให้ลูกค้าแทนที่จะเป็นเครดิตที่ซื้อจากไมโครซอฟท์โดยตรง

ไมโครซอฟท์เริ่มสืบสวนเป็นการภายในตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยทดลองซื้อเครดิตเกม FIFA จำนวน 11,000 เครดิต มูลค่า 60 เหรียญจากเว็บ ก่อนที่ฐานข้อมูล Xbox Live จะได้รับการแจ้งเปลี่ยนอีเมลพาสเวิร์ดจากแอคเคาท์อายุ 8 ปี ก่อนจะมีการซื้อเครดิต FIFA 11,000 มูลค่า 127.54 เหรียญจากแอคเคาท์ดังกล่าว

PayPal ยื่นฟ้อง Pandora ต่อศาลแมนฮัตตัน เนื่องจากโลโก้ที่ไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ที่เป็นตัว P สีฟ้านั้นดันไปคล้ายกับของ PayPal ที่เป็นตัว P ซ้อนกันสองตัว โดย PayPal อ้างว่า Pandora ใช้วิธีนี้เพื่อให้คนสับสนและเลือกใช้งานแอพผิดระหว่างสองบริการ

ทนายของ PayPal กล่าวว่า Pandora นั้นต้องพบกับการแข่งขันทางธุรกิจกับ Spotify และ Apple Music อย่างหนัก และไม่มีหนทางชัดเจนในการทำกำไรได้ ทางบริษัทจึงทิ้งโลโก้ที่ใช้มาอย่างยาวนานเพื่อใช้ตัว P ในรูปแบบที่เหมือนกับ PayPal ซึ่งดังกว่า โดยเป็นหนึ่งในหนทางที่ต้องการจะสู้กับคู่แข่ง ซึ่ง PayPal ต้องการให้ศาลสั่ง Pandora หยุดการใช้โลโก้รูปแบบนี้

จากข่าว Google อาจโดนฟ้องแบบกลุ่ม จากปัญหา Nexus 6P ปิดตัวเอง

ล่าสุดสำนักงานกฎหมาย Chimicles & Tikellis ทำหน้าที่เป็นตัวแทนลูกค้า ยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม (class action) ต่อศาลเขต Eastern District of Texas ต่อผู้ผลิตทั้งสองราย Google และ Huawei แล้ว ข้อหาที่ฟ้องคือปัญหา defect จากอาการ boot loop และแบตเตอรี่หมดเร็วเกินควร

ในคำฟ้องบอกว่า Google โยนภาระด้านการรับประกันสินค้าให้ Huawei ในขณะที่ Huawei ก็บอกลูกค้าว่าเป็นปัญหาที่ซอฟต์แวร์ ไม่ใช่ปัญหาจากฮาร์ดแวร์

Anthony Pompliano อดีตพนักงาน Snap บริษัทแม่เจ้าของแอพ Snapchat ในตำแหน่งหัวหน้าทีม Growth ซึ่งตอนนั้นเขาย้ายมาจาก Facebook ได้ยื่นฟ้อง Snap ว่าพยายามบิดเบือนตัวเลขหลายอย่างก่อนไอพีโอเข้าตลาดหุ้น ซึ่งเขาบอกว่าได้พยายามชี้ความผิดปกติเหล่านี้แล้วกับผู้บริหาร Snap เมื่อปี 2015 แต่นั่นกลับทำให้เขาถูกไล่ออกจากบริษัทหลังทำงานได้เพียง 2-3 สัปดาห์

การฟ้อง Snap นี้มีเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ไม่มีการเผยรายละเอียดต่อสาธารณะเนื่องจาก Snap ได้ร้องขอเพราะมีการเปิดเผยข้อมูลภายในมากเกินไป อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Snap ได้ยอมให้มีการเผยแพร่เอกสาร ระบุว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง โดยประเด็นสำคัญก็คือ ตัวเลขผู้ใช้งานที่ Snap เปิดเผยนั้น แตกต่างจากข้อมูลจริงที่ Pompliano พบจากโปรแกรมที่ใช้งานในบริษัท

เราเห็นข่าว LG โดนฟ้องแบบกลุ่มจากปัญหามือถือหลายรุ่นติด boot loop กันไปแล้ว ล่าสุดกูเกิลกำลังจะโดนฟ้องแบบเดียวกันจากปัญหาใน Nexus 6P

ปัญหาของ Nexus 6P คือเครื่องปิดตัวเองอัตโนมัติ แม้ยังมีปริมาณแบตเตอรี่เหลืออยู่มาก กูเกิลเองก็ทราบปัญหานี้แต่ยังไม่สามารถแก้ไขให้ลูกค้าได้ ส่วน Huawei ในฐานะผู้ผลิตก็ระบุว่านี่เป็นปัญหาจากซอฟต์แวร์ ไม่อยู่ในประกันด้านฮาร์ดแวร์

ปัญหานี้ส่งผลให้บริษัททนายความ Chimicles & Tikellis LLP กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการรวมคำฟ้องกลุ่ม (class action) แทนลูกค้า

ผู้ใช้ Nexus 6P ในเว็บไซต์ Android Police หลายคนระบุว่าเจอปัญหานี้ และหลังจากเปลี่ยนแบตก้อนใหม่ ปัญหาก็หายไป

ความคืบหน้าต่อจากข่าว ผู้บริโภคในสหรัฐรวมตัวฟ้อง LG จากปัญหา Boot Loop ของ LG G4 และ V10 ทางบริษัททนายความ Girard Gibbs ที่เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ ได้รวมเคส Boot Loop ของมือถือ LG รุ่นอื่นๆ เข้ามาในคำฟ้องด้วย

มือถือที่ถูกรวมเข้ามาคือ Nexus 5X, LG G5, LG V20 อีก 3 รุ่น (เป็นทั้งหมด 5 รุ่น) ครอบคลุมสมาร์ทโฟนระดับสูงของ LG ที่วางขายในระหว่างปี 2015-2016

ทาง Girard Gibbs ยังประกาศเชิญชวนผู้ลูกค้า LG ที่มีปัญหากับมือถือเหล่านี้ ติดต่อไปยังบริษัทเพื่อรวมจำนวนผู้ฟ้องร้องแบบกลุ่มให้ได้มากขึ้นอีก

LG มีเวลาถึงวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ในการให้ข้อมูลต่อศาลเขตแคลิฟอร์เนียใต้

หลังจากช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Riot Games ชนะคดีผู้ให้บริการบ็อตในเกม League of Legends ล่าสุด ถึงคิวของ Blizzard Entertainment บ้าง

Blizzard ชนะคดีฟ้องร้อง Bossman บริษัทผลิตซอฟต์แวร์โกงเกมจากเยอรมนี ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์การใช้งานของเกมโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้รับเงินค่าเสียหายกว่า 8.5 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งการห้าม Bossman วางขายหรือโฆษณาสินค้าของตัวเองในสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป

LG G4 มีชื่อเสีย(ง)โด่งดังจากปัญหาฮาร์ดแวร์จนเกิดอาการ boot loop สร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าจำนวนมาก จนล่าสุดในสหรัฐมีคนรวมตัวกันฟ้องร้องแบบกลุ่ม (class action) ต่อ LG แล้ว

โจทก์รายหนึ่งในคดีนี้ระบุว่าซื้อ LG G4 มาและเจอปัญหา boot loop ซ้ำซาก และ LG ก็เปลี่ยนเครื่องให้เป็นเครื่องที่สามแล้ว ก็ยังเจอปัญหานี้อีก นอกจากนี้ LG ยังไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องที่หมดประกันไปแล้ว และในคดียังกล่าวถึง LG V10 ที่ออกวางขายในปีเดียวกัน ใช้ฮาร์ดแวร์ใกล้เคียงกับ LG G4 ซึ่งพบปัญหา boot loop แบบเดียวกันด้วย

โจทก์ยื่นฟ้อง LG ในข้อหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม และละเมิดกฎหมายด้านประกันหลังขาย และขอให้ศาลสั่ง LG ให้ออกมาตรการซ่อมแซมสมาร์ทโฟนทุกรุ่นทุกเครื่องที่มีปัญหา boot loop

สงครามรถยนต์ไร้คนขับเริ่มต้นแล้ว หลัง Waymo ยื่นฟ้องอดีตพนักงานและผู้ร่วมก่อตั้ง Otto เหตุแอบขโมยไฟล์ลับสุดยอดก่อนลาออก เนื่องจากทั้งสองบริษัทต่างมีสังกัดคือ Waymo อยู่ภายใต้ Alphabet ส่วน Otto ถูก Uber ซื้อกิจการไป มันเลยกลายเป็นศึกระหว่าง Alphabet vs Uber ไปโดยปริยาย

ล่าสุด Waymo ยื่นคำขอให้ศาลสั่งคุ้มครอง ห้ามไม่ให้รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ลงสู่ถนนชั่วคราว (Uber มีรถไร้คนขับประมาณ 30 คัน) เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของ Waymo

ตามข้อมูลจากทนายของ Waymo ระบุว่าผู้ก่อตั้ง Otto ซึ่งตอนนั้นเป็นพนักงานของกูเกิล ดาวน์โหลดข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับกว่า 14,000 ไฟล์ ขนาดรวม 9.7GB เพื่อไปใช้งานในบริษัทใหม่ที่เขามีแผนจะก่อตั้งขึ้น

ที่มา - ReadWrite, Slashgear

จากกรณี ZeniMax ชนะคดี Oculus ละเมิดความลับการค้า จน Oculus ต้องจ่ายค่าเสียหาย 500 ล้านดอลลาร์ (Oculus ระบุว่าจะอุทธรณ์)

ล่าสุดความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทเลวร้ายไปอีกขั้น เมื่อ John Carmack CTO ของ Oculus ยื่นฟ้อง ZeniMax ว่าค้างจ่ายเงินเขา 22.5 ล้านดอลลาร์

นับเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ของวงการเกมออนไลน์และข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องเผชิญกับปัญหาคนโกงเกม เมื่อ Riot Games ผู้ให้บริการเกม League of Legends ชนะคดีฟ้องร้อง Leaguesharp เว็บไซต์ให้บริการเปิดบ็อตในเกมเพื่อเก็บเลเวลให้กับผู้เล่น ทั้งเพื่อนำไปเล่นต่อเองหรือการนำแอคเคาทน์ไปขายต่อ ซึ่งคดีความนี้จบลงที่ Riot Games ได้รับเงินค่าเสียหาย 10 ล้านดอลลาร์จาก Leaguesharp รวมถึงการเข้าควบคุมเว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป

สำหรับข้อกฏหมายที่ Riot Games นำมาใช้ฟ้องร้องคือ Digital Millennium Copyright Act โดยกล่าวหาว่า Leaguesharp ละเมิดลิขสิทธิ์การใช้งานของเกมโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเนื่องมาจากการใช้งานโปรแกรมที่ละเมิดข้อตกลงการใช้งานของเกม

บริษัทจัดการและการลงทุนด้านอพาร์ทเมนท์หรือ Apartment Investment & Management Company (AIMCO) ฟ้อง Airbnb เรื่องส่งเสริมให้ผู้เช่าอพาร์ทเมนท์ละเมิดกฎการเช่าที่ห้ามไม่ให้ผู้เช่าเสนอการเช่าต่อระยะสั้น ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ฟ้อง Airbnb เพราะที่ผ่านมามีแต่รายเล็กที่ฟ้อง

AIMCO ระบุเพิ่มเติมว่า ผู้ใช้บริการ Airbnb ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอาคาร และยังบอกด้วยว่าอาจก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้เช่าอพาร์ทเมนท์ เพราะผู้เข้าพักไม่ผ่านการตรวจสอบประวัติเหมือนผู้เช่าคนอื่นๆ

หาก AIMCO ชนะคดี ก็อาจทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์รายอื่นฟ้อง Airbnb เพิ่มอีกเรื่อยๆ

เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว Blizzard เปิดศึกฟ้อง Bossland GmbH บริษัทผู้พัฒนาโปรแกรมโกงเกม Overwatch หลังจากที่บริษัทเองเพิ่งจะแพ้คดีให้ Bossland มาหมาด ๆ คดีเงียบหายไปหลายเดือน จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลเยอรมันได้มีคำตัดสินคดีเรียบร้อย

ผลคือศาลตัดสินให้ Blizzard เป็นฝ่ายชนะคดี โดยให้เหตุผลว่า Bossland มีความผิดจริงในการรบกวนการทำธุรกิจ และก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม จากการพัฒนาโปรแกรมบอทของเกม World of Warcraft ซึ่งบอทดังกล่าวสร้างผลเสียให้กับระบบเศรษฐกิจภายในเกม สร้างความรู้สึกไม่ดีต่อผู้เล่น รวมถึงยังก่อให้เกิดภาวะไอเท็มล้นตลาดเกินความจำเป็นด้วย

เมื่อปี 2014 บริษัท ZeniMax (บริษัทแม่ของ Bethesda SoftWorks และ id Software) ยื่นฟ้อง Oculus ในข้อหานำเทคโนโลยีและงานวิจัยไปใช้พัฒนาแว่น Rift โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนี้แล้ว

คดีนี้ค่อนข้างซับซ้อน เพราะมีตัวละครสำคัญคือ John Carmack ผู้สร้างเกม Doom และผู้ก่อตั้ง id Software มาเกี่ยวข้องด้วย

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซื้อที่ดิน 700 เอเคอร์ในฮาวายในราคากว่า 100 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังยื่นฟ้องคดีเจ้าของที่ดินเดิมที่ได้รับสืบทอดที่ดินจากรุ่นสู่รุ่นให้ขายที่ดินทอดตลาด โดยยกเหตุผลทางกฎหมายเรื่องความเป็นส่วนตัวและความสงบเข้ามาเป็นเหตุผลหลักในการยื่นฟ้อง

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ท้องภิ่นในเขต Kauai ของฮาวายระบุว่า ที่ดินนี้ส่วนหนึ่งเป็นของ Manuel Rapozo ซื้อที่ดินแถบนี้มาตั้งแต่ปี 1894 หลังจากนั้นก็ปล่อยเช่าให้บริษัทเกษตรกรรมทำน้ำตาล จนถึงตอนนี้ผ่านมาเป็นร้อยปี ที่ดินก็ตกเป็นของผู้ก่อตั้ง Facebook ไปแล้ว

ปัญหาคือผู้ครอบครองที่ดินไม่ได้มีเพียง Manuel Rapozo แต่ยังรวมถึงลูกหลานเขาอีกหลายชีวิต และตามกฎหมายที่ดินฮาวาย ลูกหลานของ Rapozo ยังเป็นเจ้าของที่ดินโดยชอบธรรม ณ ตอนนี้ Carlos Andrade หลานของ Rapozo อยู่ระหว่างติดต่อลูกหลานคนอื่นๆ ให้มารับทราบการฟ้องร้องและมารับส่วนแบ่งจากการขายที่ดินให้ถูกต้อง

ไม่กี่วันที่ผ่านมา FTC เพิ่งยื่นฟ้อง Qualcomm ข้อหาผูกขาดตลาดชิปโมเด็มสำหรับสมาร์ทโฟน โดยหนึ่งในข้อหามีเรื่อง Qualcomm บีบแอปเปิลให้เซ็นสัญญาใช้ชิปโมเด็มของ Qualcomm เพียงรายเดียวเท่านั้น

ล่าสุด แอปเปิลยื่นฟ้อง Qualcomm แล้ว โดยเรียกค่าเสียหายประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ จากเงินที่ Qualcomm คิดเป็นค่าไลเซนส์สิทธิบัตรแพงเกินความจริง แต่จริงๆ แล้วคือเงินค่าปรับที่ Qualcomm ตั้งใจลงโทษแอปเปิล จากกรณีที่แอปเปิลให้ความร่วมมือหน่วยงานป้องกันการผูกขาดของเกาหลีใต้ (KFTC) ในคดีสอบสวนการผูกขาดของ Qualcomm ที่เกาหลีใต้

คณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือ FTC) ยื่นฟ้อง Qualcomm ในข้อหาพยายามผูกขาดชิปสื่อสาร/โมเด็มสำหรับสมาร์ทโฟน โดยใช้เทคนิคด้านค่าสิทธิบัตรกีดกันผู้ผลิตสมาร์ทโฟนไม่ให้ใช้ชิปของคู่แข่ง

Qualcomm เป็นผู้นำตลาดชิปสื่อสาร (baseband processor) อยู่แล้ว และบริษัทมีสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารระบบ cellular เป็นจำนวนมาก ตามปกติแล้ว กรณีที่บริษัทใดๆ มีสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานขององค์กรกลาง เจ้าของสิทธิบัตรจะคิดค่าไลเซนส์ในราคาที่ยอมรับได้และเป็นธรรม (fair, reasonable, and non-discriminatory หรือ FRAND)

แอปเปิลเจอคดีต่อต้านการผูกขาดในชั้นศาล โดยมีผู้ใช้ฟ้องแอปเปิลที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ ซื้อแอพจากที่อื่น ให้ซื้อที่ App Store เท่านั้น และถ้าแอปเปิลแพ้คดีนี้ ต้องจ่ายหลายร้อยล้านดอลลาร์เลยทีเดียว เพราะเป็นการฟ้องแบบกลุ่ม ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่ 2007-2013

คดีนี้ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2011 ผู้ใช้ไม่พอใจที่จะต้องซื้อแอพบน App Store ในราคาแพงกว่า โดยแอปเปิลให้คำแก้ต่างว่าทางบริษัทไม่ได้จะขายซอฟต์แวร์ให้ลูกค้าโดยตรง แต่ลูกค้าซื้อแอพจากนักพัฒนาต่างหาก ที่แอปเปิลทำก็คือให้นักพัฒนาเช่าพื้นที่ App Store โดยพวกเขาจ่าย 30% ให้แอปเปิลเป็นค่าพื้นที่ (บางบริษัทถึงกับขึ้นราคาแอพ ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้โดยตรง)

คดีนี้คงจะยังไม่มีข้อสรุปในเร็วๆนี้ แม้จะฟ้องกันมานาน แต่ถ้าศาลตัดสินให้ลูกค้าแอปเปิลชนะ ผลที่ตามมาคือ ผู้ใช้จะซื้อแอพได้ในราคาถูกลง และซื้อแอพจาก third party ได้

โนเกีย ยื่นฟ้องแอปเปิลต่อศาลในเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา ด้วยข้อหาว่าแอปเปิลละเมิดสิทธิบัตรของโนเกีย และเตรียมขยายการฟ้องไปยังประเทศอื่นๆ ต่อไป

โนเกียระบุว่าเคยเซ็นสัญญาสิทธิบัตรกับแอปเปิลมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2011 แต่หลังจากนั้น แอปเปิลปฏิเสธไม่ยอมจ่ายค่าสิทธิบัตรใบอื่นๆ ที่พบในผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลให้กับโนเกีย จนต้องมายื่นฟ้องในครั้งนี้

สิทธิบัตรที่เป็นปัญหามี 32 รายการ มีหัวข้อหลากหลายทั้งการแสดงผล, UI, ซอฟต์แวร์, เสาอากาศ, ชิปเซ็ต, การเข้ารหัสวิดีโอ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าเรียกค่าเสียหายเท่าไร

สถานการณ์ Uber ในยุโรปยังไม่สู้ดี เพราะมีบริษัทแท็กซี่ท้องถิ่นทั้งในสเปน ฝรั่งเศส ยื่นฟ้องศาล เรียกร้องให้ Uber ทำตามกฎหมายคมนาคมในภูมิภาค เท่าเทียมกันกับที่แท็กซี่ท้องถิ่นปฏิบัติตาม

ทาง Uber โต้ด้วยการบอกว่าบริษัทไม่ใช่บริการรับส่งผู้โดยสาร แต่เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลระหว่างผู้โดยสารกับคนขับ เรื่องนี้จึงค้างคาอยู่ในศาลยุติธรรมยุโรป เพื่อตัดสินว่า Uber จะเป็นอะไรกันแน่

ถ้าผลออกมาว่า Uber เป็นบริษัทบริการรับส่งผู้โดยสาร Uber ก็ต้องอยู่ในกรอบระเบียบของยุโรปเหมือนบริษัทแท็กซี่ทั่วไป แต่ถ้าเป็นสื่อกลาง Uber ก็จะมีอิสระในการดำเนินธุรกิจมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ Uber กำลังต่อสู้เพื่อให้ได้มา เพราะตลาดยุโรปเป็นตลาดใหญ่และสำคัญมากสำหรับ Uber